เมื่อกลุ่ม เอชพีแอล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต รีโนเวท กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ รีสอร์ต เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดี ที่สุด เอาใจบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมของโลก เพื่อสร้างความแตกต่างจากโรงแรมภายในเกาะที่มีมากกว่า 200 แห่ง ด้วยจุดเขาย และการนำเสนอรูปแบบที่โดดเด่น โดย นางสาวแองเจลีน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารการตลาด เอชพีแอล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต มั่นใจว่า การตลาดดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปพักได้เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นๆ ในเครือ รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม โดย นางสาวแองเจลีน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารการตลาด เอชพีแอล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต กล่าวว่า กลุ่มโรงแรม และรีสอร์ทของ เอชพีแอล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ตมี 11 แห่ง ประกอบด้วยแบรนด์คอนคอร์ด ที่อยู่ในสิงคโปร์ 1 แห่ง มาเลเซีย 2 แห่ง แบรนด์ฮาร์ดร็อค ในอินโดนีเซีย 1 แห่ง ประเทศไทย 1 แห่ง และมาเลเซีย 1 แห่ง นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่อยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ บูติค คอลเล็คชั่น 4 แห่ง และล่าสุด คือ กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ รีสอร์ต แม้ว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกจะส่งผลกระทบถึงการเดินทางท่องเที่ยวในบางประเทศ แต่สำหรับกลุ่มโรงแรมในเครือ เอชพีแอลที่มีความหลากหลายทางด้านที่พัก และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มต่างๆ ได้ ทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มคู่รัก กลุ่มที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และที่พักซึ่งอำนวยความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรม และรีสอร์ท จะมาจากประเทศอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น จีนรวมไปถึงประเทศอังกฤษ และยุโรป หาลูกค้าในกลุ่มประเทศใหม่ อย่างไรก็ตาม นางสาวแองเจลีน กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ของพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งมีการบุ๊คกิ้งล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน เปลี่ยนมาเป็นบุ๊คกิ้งก่อนเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น แต่ด้วยความหลากหลายของโรงแรมในเครือจึงทำให้มั่นใจถึงการรองรับนักท่องเที่ยวที่ยังคงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงเวลานี้ทางเครือได้พยายามหาลูกค้าในกลุ่มประเทศใหม่ๆ เข้ามาทดแทนประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวมด้วย ขณะที่ในส่วนของ กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ รีสอร์ต ที่ได้รับการรีโนเวทขึ้นใหม่ เนื่องจากทางกลุ่ม เอชพีแอล และสามารถสัมผัสถึงมัลดีฟส์ได้อย่างแท้จริง โดย กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ ตั้งอยู่บนท้องทะเลที่สวยงามของแนววงแหวนปะการังทางเหนือของเกาะมาเล่ เปิดบริการในปี ค.ศ. 2000 ในชื่อ โซเนวา กิลิ (Soneva Gili) ต้นฉบับรีสอร์ตบนน้ำอันเลื่องชื่อ ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 เกาะแห่งนี้ได้ถูกครอบครองโดยเอชพีแอล (HPL - Hotel Properties Limited) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมและโครงการแนวล์สไตล์หลายแห่งทั่วโลก ทำตลาดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดย นางสาวแองเจลีน กล่าวว่า กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ รีสอร์ต ที่จะเปิดบริการเดือนธันวาคม 2562 มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาประมาณ 20-25% นอกจากนั้นเป็นประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และกลุ่มประเทศสแดนดิเนเวีย อีกทั้งยังตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าไปที่ประเทศอิตาลี สเปน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทยที่ยังมีศักยภาพในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากเวลานี้มีเที่ยวบินตรงไปยังเกาะมัลดีฟส์นั้นเอง อีกทั้งยังหวังที่จะดึงนักท่องเที่ยวไทยไปพักติด 1 ใน 5 ของลูกค้าหลักอีกด้วย ทั้งนี้ทาง รีสอร์ต ยังได้รับการโหวตโดยทริปแอดไวเซอร์ ให้เป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของโลกในปี 2558 และสามารถเดินทางด้วยเรือสปีดโบ้ทจากท่าอากาศยานนานาชาติมาเล่โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที รีสอร์ตตั้งอยู่กลางลากูนที่สวยงามทำให้ผู้มาพักสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบทิศทางของมหาสมุทรอินเดียได้โดยไร้สิ่งบดบัง ประกอบด้วยวิลล่ากลางทะเล 45 หลัง ซึ่งรวมถึงห้องพักแบบไพรเวตรีเสิร์ฟ ที่มอบบรรยากาศแห่งการพักผ่อนแบบส่วนตัวระดับสูงสุด มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรโลกเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้บริการของรีสอร์ตเน้นการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเลที่เปราะบาง