นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทยในปี 2563 ภายใต้แนวทาง Exhibition Redefined; 360 องศา Exhibition Success ของ ทีเส็บ กับการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าระดับโลก หรือ The 86th UFI Global Congress ใน กทม. จะเป็นสองส่วนสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยในเวทีโลก จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จากรายงานอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของเอเชีย ประจำปี 2561 โดยสมาคมการแสดงสินค้าโลก หรือ UFI ระบุว่า รายได้จากการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทยอยู่ในอันดับสูงสุดในอาเซียน หรือคิดเป็นเงิน 232.71 ล้านเหรียญสหรัฐ จากจำนวน 104 งาน ไทยจึงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน และมีเป้าหมายที่จะไปสู่ผู้นำในเอเซียต่อไป โดยแบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 5 ด้าน คือ 1.การดึงงานใหม่เข้ามาจัดในประเทศไทย โดยมุ่งเน้น 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย S curve อาทิ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัล บริการสุขภาพแบบองค์รวม ยานยนต์แห่งอนาคต ฯลฯ 2.การเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเจ้าภาพการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านการบิน โดยมุ่งเน้นการดึงงานไมซ์ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการบินเข้ามาจัดในประเทศไทย 3. การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยในการจัดงานแสดงสินค้าให้มีมาตรฐาน ร่วมมือกับสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) 4. การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก อาทิ การเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรม UFI Asia Pacific Conference Site Trip และ ASEAN Association Meeting และ 5.การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าแบบครบวงจร ยกระดับมาตรฐานการจัดงานสู่สากล เพิ่มจำนวนผู้ร่วมแสดงงานมุ่งเน้นกลุ่มประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติจากกลุ่มประเทศ ASEAN+6 และ CLMV ซึ่งสถิติอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทย ปีงบประมาณ 2562 พบว่ามีสัดส่วนประมาณ 20% ของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยมีจำนวนนักเดินทางไมซ์กลุ่มตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย 264,005 คน เพิ่มขึ้น 13.20% สร้างรายได้ให้เศรษฐกิจ 20,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.93% ทั้งนี้ ในปี 2563 คาดการณ์เป้าหมายว่าจะมีนักเดินทางไมซ์ตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติ จำนวน 277,000 คน สร้างรายได้ 21,100 ล้านบาท ไค ฮัทเทนดอฟ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม The 86th UFI Global Congress ที่จัดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายน ในกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้ เป็นการประชุมสำคัญที่ใหญ่ที่สุดของ UFI ซึ่งรวบรวมผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติจากทั่วโลกมาร่วมประชุมหารือ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่าย และรับทราบทิศทางรวมถึงเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ โดยทีเส็บร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA สมาคมโรงแรมไทย และกลุ่มบางกอก ริเวอร์ พาร์ทเนอร์ส ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 20 ราย รวมทั้งสิ้นกว่า 400 นัดหมาย ทั้งนี้การเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม The 86th UFI Global Congress นอกจากจะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ โดยประมาณการผู้เข้าร่วมงานประชุมครั้งนี้กว่า 550 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้กว่า 42 ล้านบาท และคาดว่าจะมีธุรกิจ (Business Lead) เกิดขึ้น 20 งาน สร้างรายได้กว่า 135 ล้านบาท ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในประเทศไทย และประกาศความพร้อมของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลกแล้ว ยังตอกย้ำไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย ทาลูน เทง ด้าน นายไค ฮัทเทนดอฟ กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ UFI กล่าวว่า จากรายงานสถิติการสำรวจอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชียปี 2562 รายงานว่าประเทศไทยเป็นตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในด้านจำนวนงานและพื้นที่การจัดงาน ประเทศไทยยังมีศูนย์การจัดงานแสดงสินค้าที่มีมาตรฐานในระดับโลก มีบริษัทผู้จัดงานที่มีมาตรฐานสากล และหน่วยงานภาครัฐบาลก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ส่วน นายทาลูน เทง นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนในฐานะสมาคมที่มีบทบาทโดยตรงต่อการพัฒนาและสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจให้กับสมาชิก เน้นสร้างความร่วมมือระหว่างกัน การรวมตัวของบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เพราะในการจัดงานแสดงสินค้าแต่ละงานต้องใช้มืออาชีพในแต่ละส่วนทั้งบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้า ศูนย์การแสดงสินค้า บริษัทขนย้าย บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น พิชญา  นาควัชระ สำหรับ นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐตามนโยบายรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ในฐานะเมืองเจ้าภาพมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพงาน The 86th UFI Global Congress 2019 และงานเลี้ยงรับรองผู้เข้าประชุม แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือสนับสนุน และศักยภาพความพร้อมของกรุงเทพมหานครในฐานะไมซ์ซิตี้ของประเทศไทย พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือในการทำการตลาดระดับนานาชาติ สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติในการให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวธุรกิจ โดยส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติของโลก และแผนพัฒนากรุงเทพมหานครที่ตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองจัดประชุม นิทรรศการในอันดับแรกของภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายในงาน The 86th UFI Global Congress อาทิ การอำนวยความสะดวกในการจัดงาน ด้านความปลอดภัย และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อเป็นการต่อยอด และส่งเสริมภาพลักษณ์ของกรุงเทพมหานครในฐานะที่เป็น Exhibition City of ASEAN