"หมอธี"เผยหลายแห่งไม่แย่อย่างคิด สามารถพัฒนาตามขั้นตอนปกติได้ เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เดินทางไปติดตามตรวจเยี่ยมเพื่อรับฟังสภาพปัญหาของโรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา อ.เต่างอย จ.สกลนคร ซึ่งเข้าร่วมโครงการโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน หรือโรงเรียนไอซียู นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมและรับฟังถึงสภาพปัญหาของโรงเรียนเต่างอยพัฒนาศึกษา เห็นว่าไม่จำเป็นถึงขั้นต้องเข้าเป็นโรงเรียนไอซียู เพราะผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนต่ำกว่ามาตรฐานไม่มาก โรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการควรเป็นโรงเรียนปลายแถวที่มีปัญหาหนักจริงๆ โดยล่าสุด สพฐ.ได้ทำการวิเคราะห์โรงเรียนที่แต่ละจังหวัดได้เสนอให้เข้าเป็นโรงเรียนไอซียู จำนวน 5,032 โรงเรียน ปรากฏว่ามีโรงเรียนที่มีระดับความวิกฤต หรือไอซียูอยู่เพียง 2,252 โรงเรียน ที่เหลืออยู่ในกลุ่มของโรงเรียนที่ต้องดำเนินการดูแลเร่งด่วน จำนวน 1,924 โรงเรียน และไม่เข้าขั้นฉุกเฉิน จำนวน 856 โรงเรียน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโรงเรียนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เข้าโครงการโรงเรียนไอซียู แต่การแก้ไขปัญหาก็จะไม่ล่าช้า เพราะทุกแห่งได้ผ่านกระบวนการเรียนรู้และคิดแนวทางในการแก้ไขปัญหากันเอาไว้แล้ว "ที่ สพฐ.คัดโรงเรียน เหลือ 2,252 แห่ง เพื่อให้เข้าร่วมโรงเรียนไอซียู ถือว่าไม่เกินกว่าสิ่งที่ผมคาดหวังไว้ และใจจริงอยากจะพัฒนาโรงเรียนกลุ่มนี้ซัก 3,000 แห่ง ก่อน สาเหตุที่เหลือโรงเรียนไอซียูไม่มาก เพราะบางโรงเรียนที่สมัครเข้ามาหลายแห่งไม่ได้แย่อย่างที่คิด สามารถพัฒนาตามขั้นตอนปกติก็ได้" รมว.ศึกษาธิการ กล่าว