เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มี.ค. 60 ร.ต.อ.อรุณ สืบสิงห์ รอง สารวัตร(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ( สกอ. ) เลขที่ 328 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.พญาไท พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พญาไท และประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุภายเป็นอาคารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ( สกอ. ) มีความสูง 14 ชั้น ด้านหลังตึกกลุ่มงานอำนวยการพบกลุ่มควันพวงพุ่งออกมาจากภายในห้อง power black up ซึ่งเป็นห้องเก็บแบตเตอรี่สำรองขนาดความจุ 150 แอมป์ 12 โวลด์ จำนวน 130 ลูก เจ้าหน้าที่จึงเร่งอพยพเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ภายในอาคารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ( สกอ. ) ทั้งหมดออกมาด้านนอกอาคารเพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำยาโฟมดับไฟเข้าทำการดับใช้เวลาประมาณ 30 นาที่ เหลือเพียงแต่กลุ่มควันเจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องระบายควันจำนวน 2 เครื่องดำเนินการจนแล้วเสร็จ เบื้องต้นพบแบตเตอรี่สำรองได้รับความเสียหายจำนวน 8 ลูก เครื่องปรับอากาศเสียหายถูกไฟไหม้จำนวน 1 ตัว พื้นที่เสียหายประมาณ 2 เมตร ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด พ.ต.อ.นิติวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารดังกล่าวแต่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเพียงกลุ่มควันออกมาจากห้องเก็บแบตเตอรี่สำรองของอาคาร หากไฟดับก็จะมีการดึงไฟจากส่วนนี้ไปใช้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้โฟมที่ใช้ดับเพลิงเข้าทำการควบคุมสถานการณ์โดยใช้เวลาไม่นาน เบื้องต้นพบแบตเตอรี่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ไม่น่าจะมีผลกระทบกับตัวอาคารเนื่องจากขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบเพียงกลุ่มควันพุ่งออกมาจากห้องเท่านั้น ในส่วนมูลค่าความเสียหายคงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ของตัวอาคารเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเสียก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุบริเวณชั้น 5 ตึก 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ( สกอ. ) มีการประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ ทั่วประเทศจำนวน 38 แห่ง ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุมต่างพากันวิ่งหนีออกจากตัวอาคารมายืนกันอยู่ด้านหน้าตัวอาคารจำนวนมาก แต่ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยผู้ที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ได้กลับขึ้นไปประชุมตามเดิมเนื่องจากอาคารที่มีการประชุมและจุดเกิดเหตุอยู่กันคนละอาคาร