ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เสกสรร สิทธาคม [email protected] พระผู้ทรงเคียงคู่การทรงงานกับในหลวง(1) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(สำนักงานกปร.) จะพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในแต่ละปีปีละหลายพื้นที่ ไปสัมผัสพระมหากรุณาธิคุณผ่านแนวพระราชดำริที่พระราชทานเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตของราษฎรทั้งประเทศ ที่จะเข้าไปศึกษาเรียนรู้พิสูจน์ ทดลองแล้วน้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวที่ผ่านการน้อมนำปฏิบัติจริงได้ในพื้นที่ตัวเองที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตบรรเทาปัญหาความอดอยากขาดแคลนในครอบครัวในชุมชนได้ อันเป็นพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขยั่งยืนด้วยความพออยู่พอกิน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นที่ตั้งแห่งผลสำเร็จอันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงศึกษา คิดค้น ทดลองแล้วเกิดผลสำเร็จ จึงได้พระราชทานแนวทางเป็นต้นแบบไว้เพื่อราษฎรได้ไปศึกษาแล้วนำไปปรับประยุกต์ใช้ แล้วในฐานะสื่อมวลชนที่ร่วมไปศึกษาเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริดังกล่าวทางหนึ่งคือการเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณนั้นสู่ประชาชนในวงกว้างต่อไป ทางสำนักงานกปร.เองก็มีเจ้าหน้าที่ไปการลงพื้นที่ทุกครั้งเพื่อร่วมเก็บข้อมูลทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ ทั้งส่วนของปัญหาเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขผ่านหน่วยงานทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมสนองพระมหากรุณาธิคุณ แล้วเจ้าหน้าที่เองก็นำถ่ายทอดข้อมูลผ่านสื่อสารของสำนักงานอย่างข้อมูลต่อไปนี้ เป็นข้อมูลที่ นางสุพร ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการพื้นที่ 2 สำนักงาน กปร.ถ่ายทอดผ่านวารสารอันเนื่องมากจากพระราชดำริในอีกทางหนึ่ง ที่หน้าในหลวงของเราหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวันขอนำมาเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป อันจะได้ซึมซับพระมหากรุณาธิคุณ ซึมซับแนวพระราชดำริเพื่อนำสู่การเป็นแนวทางเดินตามรอยพระยุคลบาทต่อไป “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2498 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แทบทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมิภาคต่างๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จะทรงงานเคียงข้างอยู่เสมอ ทำให้ทรงทราบถึงปัญหาต่าง ๆ ของราษฎร จึงเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการช่วยเหลือราษฎรเสริมงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์มากมายหลายด้านแก่ราษฎร แม้ในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จะมิได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ห่างไกลได้ดังแต่ก่อน แต่สมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ก็ยังคงเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรและบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขราษฎรโดยพระองค์เองมิได้ขาด เสมือนต่างพระเนตรพระกรรณ และทรงสืบสานงานด้านการพัฒนาให้ดำเนินไปตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ในเรื่องนี้เคยมีพระราชดำรัสถึงเหตุที่ต้องทรงงานหนัก ดังความว่า “ความจริงที่ข้าพเจ้ามีกำลังใจ และกำลังกายที่จะปฏิบัติหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ก็เนื่องด้วยเหตุนึกถึงคำของพ่อ ที่สอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ และก็เมื่อแต่งงาน พระบาทสมเด็จพระเอยู่หัวก็ทรงสอนตลอดมาว่า แผ่นดินนี้มีบุญคุณ มีบุญคุณแก่ชีวิตของพวกเรามากมายนัก เพราะฉะนั้นชีวิตที่เกิดมานี้อย่าได้ว่างเปล่า จงตอบแทนให้รู้สึกเสมอว่าเป็นหนี้บุญคุณ... ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและข้าพเจ้า รู้สึกว่าทำงานเท่าไรก็ยังไม่คุ้ม ยังไม่สมกับที่บรรพบุรุษของเผ่าไทยทั้งหลาย ผู้มีพระคุณ ผู้ที่ได้ปกป้องยึดผืนแผ่นดินนี้ได้มาตลอด แล้วดูตามประวัติศาสตร์แล้ว ท่านทั้งหลายได้ประสบความทุกข์ยากอย่างมากมาย ท่านทั้งหลายก็แน่วแน่ในปณิธานที่จะทำนุบำรุงผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้เป็นแผ่นดินที่ร่มเย็น เป็นแผ่นดินที่ทุกคนมิอิสรเสรีที่จะมีความเชื่อถือในศาสนาใดก็ได้ มีความสงบสุขอยู่ในศาสนาของตนโดยที่ไม่มีการข่มเหงรังแกบีบคั้นอันนี้เป็นลักษณะประเสริฐของบรรพบุรุษของไทยทั้งหลาย ซึ่งข้าพเจ้าอยากขอให้ทุกท่านนำคำพูดของข้าพเจ้าไปคิดดูให้ดี แล้วก็จะเห็นได้ว่าข้าพเจ้านั้นไม่ได้ดีวิเศษอะไรเลย เพียงแต่ว่า เมื่อนึกถึงพระคุณอย่างนี้แล้ว ก็ต้องยิ่งพยายามทำให้สุดความสามารถ...” พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต วันที่ 21 สิงหาคม 2522 ด้วยพระราชปณิธานดังนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จึงเสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าหนทางจะยากลำบากเพียงใด หรือต้องทรงใช้เวลาทรงงานอยู่อย่างยาวนานเพียงใดในพื้นที่ บางครั้งถึงมืดค่ำ เพื่อทรงรับฟังทุกข์ของชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลมาเฝ้ารับเสด็จ และพระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาให้หน่วยงานราชการไปปรับดำเนินการ(อ่านต่อ)