ออกหมายจับ เมียเอ็ม พญาไท เบี้ยวฟังฎีกา คดีข่มขืนลูกจ้างสาว นัดอ่านฎีกาอีกครั้ง 25 เม.ย.นี้เช้า ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 15มี.ค.เวลา 09.30 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.4407/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรชัย หรือคณิศร วิวัฒนชาติ หรือเอ็ม พญาไท อายุ 41 ปี และนางธนวรรณ หรือเดือน อุดมมีชัย หรือคล้ายแพร อายุ 50 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมต่อสิ่งใดฯ , หน่วงเหนี่ยวกักขังและ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 19 เม.ย. - 10 ส.ค. 51 จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืน บังคับข่มขู่ น.ส.นุ้ย(นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงาน หจก.อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟของจำเลย แล้วจำเลยที่ 1 ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายครั้งหลายหน และข่มขู่จะนำรูปภาพและวีดิโอ แอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายไปเผยแพร่โดยมีจำเลยที่ 2 พูดจาขู่เข็ญผู้เสียหาย โดย ศาลเบิกตัว นายสุรชัย จากเรือนจำ ขณะที่จำเลยที่ 2 ไม่มาศาล ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เจ้าพนักงานศาลติดหมายให้ จำเลยที่ 2 ทราบ ถือว่าทราบนัดแล้ว เมื่อ ไม่มาศาล จึงมีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับ และนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนี้อีกครั้งวันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด ขณะที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุกนายสุรชัย จำเลยที่ 1 รวมโทษทุกข้อหาทุกกระทงไว้ 50 ปี ปรับ 1,050 บาท ส่วนนางธนวรรณ จำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปีฐานเป็นผู้สนับสนุนแต่ในชั้นอุทธรณ์ ปรากฏว่า จำเลยที่ 2 ได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ ศาลจึงออกหมายจับและสั่งปรับนายประกันไปแล้ว 1 ล้านบาทเมื่อปี 2557