จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้โอนคดีและนำ 16 ผู้ต้องหาคดีรุมทำร้ายและใช้ไขควงแทงนายธีระพงษ์ หรือปอนด์ ฐิตะฐาน นักศึกษาม.ศิลปากร เสียชีวิต มาส่งให้กับพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม โดยมีการสอบสวนก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา ก่อนที่ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าตรวจค้นห้องพักของนายเดชาธร หรือ ไบร์ท มูลมณี ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งได้เก็บหลักฐานต่าง ๆ ไปพิสูจน์ดีเอ็นเอ คาดว่าภายใน 7 วัน จะทราบผล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 มี.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว นอกจากนี้ทาง นางอารีรัตน์ ชมโลก และนางอรุณี ดีสุวรรณ ซึ่งเป็นมารดาและป้าของ นายธีระพงษ์ หรือปอนด์ ฐิตะฐาน เดินทางมารอพบ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. และ นางจันทร์ชม จินตนานนท์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อรับมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 110,000 บาท ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า วานนี้ (15 มี.ค.) ได้สอบปากคำ พ.ต.ท.ศักดินันท์ มูลมณี รองผกก.กก.สส.บก.ภ.4 บิดาของนายเดชาธร ไปเรียบร้อยแล้วซึ่งให้การครบทุกประเด็นเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมยืนยันไม่ได้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน สำหรับผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน นั้นที่ยังไม่ได้ออกหมายจับนั้น จะต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้งว่าจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบุคคลต้องสงสัยพูดจาข่มขู่กับทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหอพักนั้น ตนได้กำชับทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และรรท.ผกก.สภ.ชะอำ ให้ตรวจสอบและดูแลความเรียบร้อย นางอารีรัตน์ เปิดเผยหลังรับมอบเงินเยี่ยวยา ว่า ตั้งแต่คดีได้ถูกโอนมาให้ทางกองบังคับการปราบปรามสอบสวนตนรู้สึกมั่นใจขึ้น อีกทั้งรูปคดีก็มีคืบหน้าไปมาก ส่วนประเด็น 3 ผู้ต้องสงสัย นั้น ตนได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว โดยขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ทั้งนี้หลังจากนายเดชาธร ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ในส่วนนี้ตนค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นผู้ลงมือแทงน้องปอนด์และทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ในส่วนการถูกข่มขู่นั้นสำหรับตนไม่เคยถูกผู้ใดข่มขู่ แต่เพื่อนของน้องปอนด์ทราบว่ามีคนมาข่มขู่และได้แจ้งความไว้แล้ว อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง แต่ต้องขอปรึกษาทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ก่อน ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การว่าถูกข่มขู่จนไม่กล้าให้การกับทางเจ้าหน้าที่ในตอนแรกนั้น ตนขอปฏิเสธและยืนยันว่าไม่เคยข่มขู่ใครหรือรู้จักกับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นแต่อย่างใด