กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จับมือ องค์การเภสัชกรรม และองค์การสุรา กรมสรรพสามิต ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุขของประเทศ กำหนดกรอบการดำเนินงานด้านวิชาการ การวิจัยและพัฒนา การให้ข้อมูลข่าวสาร การบริหารต้นทุนและการพัฒนาบุคลากรในสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ที่ใช้ในการสาธารณสุข ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทในการศึกษาวิจัยและพัฒนาทางห้องปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ กรมวิทย์ฯ จะดำเนินการศึกษาวิจัยและทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทางเคมีและประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อ โดยเฉพาะวิธีการตรวจวิเคราะห์ปริมาณ Benzalkonium chloride ในผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ และวิธีทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส โดยเฉพาะการตรวจวิเคราะห์ฆ่าเชื้อวัณโรค ซึ่งนับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุข และเป็นข้อมูลในการกำหนดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อใช้งานประเภทต่างๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานที่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นหลักอ้างอิงแก่ผู้ประกอบการ โดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ ด้าน เภสัชกรนิพนธ์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุข ถือเป็นการบูรณาการร่วมกันครั้งสำคัญของวงการสาธารณสุขไทย มีเป้าหมายเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานใหม่ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งเป็นการสร้างงานภายในประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจชาติ สอดคล้องกับโมเดลขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศ ในส่วนด้านสาธารณสุขนั้นจะเป็นการนำไปสู่การเกิดเทคโนโลยี อุตสาหกรรมสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ High Impact มีผลสืบเนื่องต่อโครงการอื่น องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพทางด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต มีบุคลากรที่มีความชำนาญ มีการควบคุมคุณภาพ ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ และในระดับอุตสาหกรรม การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว องค์การเภสัชกรรมจะทำหน้าที่คิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ เพื่อนำไปใช้ในระบบสาธารณสุข เพื่อความเหมาะสมของผู้บริโภค และเกิดความปลอดภัยต่อการใช้ รวมทั้งช่วยสนับสนุนการกำหนดค่ามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ แอลกอฮอลืที่มีความต้องการใช้สูงในระบบสาธารณสุขของรัฐและเอกชน ตลอดจนเป็นการกำหนดกลไกราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดอีกด้วย สำหรับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต ในฐานะผู้ผลิตแอลกอฮอล์ นายเชาวรัตน์ เชาว์ชวานิล ผู้อำนวยการองค์การสุรา กล่าวว่า องค์การสุรา กรมสรรพสามิต เป็นองค์กรที่มุ่งพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ต่องเนื่อง เพื่อตอบสนอง ความต้องการของทุกอุตสาหกรรมในระดับสากล โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ดี ความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อการสาธารณสุขของประเทสในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ทั้งในส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะทำให้แอลกอฮอล์เพื่อใช้ในเชิงสาธารณสุขขององค์การสุรามีคุณค่ามากขึ้น สร้างความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ เป็นการพัฒนาการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกภาคอุตสาหกรรม สมกับเป้าหมายแห่งพันธกิจของค์กรที่มุ่งเน้นให้เป็นองค์กรที่ดีต่อสังคม ดำเนินตามกฎ ระเบียบ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ประเทศชาติยังจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจากการลดการนำเข้าวัตถุดิบ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลุกพืชที่เป็นวัตถุตั้งต้น ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต และเมื่อได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานเป็นท่ยอมรับระดับสากล ก็สามารถเพิ่มรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตหลากหลายด้านให้กับประชาชนในหลายกลุ่ม ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เพื่อสาธารณสุข เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปัจจุบันนิยมใช้ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ ไปจนถึงสถานพยาบาล ดังนั้นการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานที่ทันสมัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ การบูรณาการครั้งนี้ สอดคล้องกับยุทศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน