เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 17 มี.ค. ร.ต.อ.อธิพงศ์ ศรีโพธิ์ รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุบ้านทรุดตัว ทับคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 55/1 ซอยทองหล่อ 25 (ซอยแสงเงิน) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.อัครัช ถนอมชาติ สว.สส.สน.ทองหล่อ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปืนครึ่งไม้ สูง 2 ชั้น ที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนเหลือเพียงส่วนของกำแพงข้างฝาตัวบ้าน พบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อภายหลังว่านายภุชงค์ หรือตั้ม บุญชยารักษ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด นอนคว่ำจมกองเลือด ถูกแผ่นปูนกำแพงฝาบ้านขนาดใหญ่ ของชั้นล่างทับร่างไว้ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่กระโหลกศีรษะยุบจนมีมันสมองไหลออกมา แขนและขาทั้งสองข้างหักผิดรูป และมีแผลถลอกตามร่างกาย จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตร รพ.จุฬาฯ สอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่่าวเป็นของนายศุภศิษฏ์ สกลธนารักษ์ เจ้าของบ้าน ซึ่งเมื่อปี 56 เคยร่วมกับนักธุรกิจชาวเมียนมาร์เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโครงการขนาด 9 พันล้านบาท พัฒนาพลังงานไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมาร์ โดยการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ป้อนเมืองใหญ่ ๆ และพื้นที่ห่างไกลในพม่าขนาด 210 เมกะวัตต์ ขีดความสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 350 ล้านวัตต์ต่อปีด้วย โดยเจ้าตัวได้ว่าจ้างผู้รับเหมามาทำการรื้อถอน เพื่อที่จะปลูกบ้านหลังใหม่ ด้าน นายสุรชาติ สีหะวงษ์ อายุ 33 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างมาจาก นายพลวุฒิ วังธิราช อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นผู้รับเหมามาอีกทอดหนึ่ง ตนจึงชักชวนผู้ตาย มาทำการรื้อบ้านหลังนี้ ได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท ซึ่งทำมาได้เพียง 4 วัน โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับเพื่อนได้ทำการรื้อถอนกำแพงข้างฝาบ้านอยู่เพียง 2 คน จู่ๆ เกิดความผิดพลาดกำแพงฝาบ้านอีกฝั่งได้หล่นลงมาทับเพื่อน ด้วยความที่เพื่อนผู้ตายตกใจจึงรีบไปแจ้งญาติผู้ตายให้ทราบแล้วจะกลับมาให้ปากคำอีกครั้ง ขณะที่ น.ส.บุปผา บุญชยารักษ์ อายุ 39 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า บุตรชายเป็นเสาหลักของครอบครัว เนื่องจากสามีตนได้เลิกลากันไปเมื่อนานมาแล้ว จึงเหลือกันเพียง 2 คน โดยบุตรชายมีอาชีพเป็นพนักงานเช็ดกระจกตามอาคารสูง ของบริษัท ซุปเปอร์แมน จำกัด ย่านบางกะปิ แล้วมีเพื่อนมาชักชวนให้ไปรับจ้างรื้อถอนบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งตนได้ห้ามปรามแล้วแต่ไม่เชื่อเนื่องจากผู้ตายต้องการจะนำเงินที่ได้มาเลี้ยงดูแม่เท่านั้น เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ จากการรื้อถอน ทำให้บ้านถล่มลงมาทับจนมีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจสอบจากทางกองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ และเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป