"ไม่ต้องท้อ ไม่ต้องเอาตนเองไปเปรียบกับใคร ทำทุกอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ เมื่อมีอุปสรรคระหว่างเดิน...นั่งพักหายเหนื่อยแล้วเดินต่อ" นี่คือหลักคิดของ "จิณจุฑา จุ่นวาที" หรือจ๊ะจ๋า นักศึกษาพิการที่ป่วยเป็นโรคกระดูกเปราะ อาศัยวีลแชร์นำทางมาตั้งแต่ 10 ขวบ เวลานี้เธอกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการตลาด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กว่าจะฟันฝ่ามาถึงวันนี้ได้ยากลำบากไม่น้อย "จ๊ะจ๋า" เล่าเรื่องของเธอให้ฟังว่า... "เกิดมาเป็นโรคกระดูกเปราะหักง่าย เรียกว่าพิการแต่กำเนิด พ่อแม่ทอดทิ้งไปตั้งแต่แรก มีชีวิตรอดมาได้ด้วยสองมือของหมดนวดแผนไทย "ขนิษฐา เมือบศรี" ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมที่เลี้ยงดูกันมา ตอน 5 ขวบ แม่พาไปสมัครเรียน แต่ไม่มีโรงเรียนไหนรับเข้าเรียน จนกระทั่งโรงเรียนมีนประสาทวิทยา เข้ารับเรียน ป.1 เรียนได้ 1 เดือน เกิดอุบัติเหตุ จึงต้องย้ายมาโรงเรียนทองสัมฤทธิ์ 1 เดือน แต่ด้วยความไกลบ้าน ตอนนั้นอาศัยอยู่บ้านนักกีฬา บางกะปิ กับญาติของแม่ จึงต้องย้ายมาเรียนโรงเรียนสุเหร่าทับช้าง ตอน ป.1 ...เป็นเด็ก ป.1 ที่ต้องย้ายโรงเรียนถึง 3 แห่ง เรียนอยู่ที่โรงเรียนสุเหร่าทับช้าง ถึงชั้น ป.3 ก็ต้องย้ายที่เรียนอีก เพราะแม่อยากให้ลูกสะดวกสบาย จึงหาโรงเรียนให้ใหม่ ก็มาได้โรงเรียนศรีสังวาลย์ ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เรียนจนจบ ม.3 ซึ่งตลอดเวลานั้น แม่มาเช่าหอพักติดโรงเรียน เพื่อจะได้ดูแลใกล้ๆ หลังจากเรียนจบชั้น ม.3 จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนปากเกร็ด (อยากเรียนรวมกับเพื่อนปกติ) โชคดีที่ได้เพื่อนๆ และคุณครูช่วยดูแลจนจบชั้น ม.6 และสอบตรงเข้าศึกษาต่อที่ มทร.ธัญบุรี ...ตอนแรกอยากเรียนสื่อสารมวลชน อยากเป็นนักข่าว เพราะมีความใฝ่ฝัน เมื่อตอน 5 ขวบมีโอกาสออกรายการเจาะใจ จนมีผู้อุปภัมถ์ คือคุณสุภา ผึ้งสุข เป็นฝ่ายกฎหมายของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้เห็นการทำงานของสื่อมวลชน ได้เห็นเครื่องมืออุปกรณ์ ก็อยากทำงานสายงานนี้และอยากเป็น"นักข่าว"มาก แต่ด้วยร่างกายไม่อำนวยในสายวิชาชีพนี้ ก็เลยเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบ "สาขาการตลาด" ส่วนตัวชอบการพูดการแสดงออก ชอบพูดคุยกับผู้คน และมองในเรื่องของการประกอบอาชีพในอนาคต มีช่องทางในการประกอบอาชีพหลากหลายอาชีพ อย่างน้อยถ้ามีความรู้ทางด้านการตลาด ช่องทางในการทำงานน่าจะหลากหลาย" "จ๊ะจ๋า" เล่าด้วยว่า เพราะคำพูดของครูท่านหนึ่งที่พูดกับเธอว่า "อย่างมากหนูก็ได้แค่ขายล็อตเตอร์รี่" กลายเป็นแรงผลักดันให้ต้องสู้ สู้กับโรคร้าย และสู้กับชะตาชีวิตอย่างเข้มแข็ง กล่าวถึง "โรคกระดูกเปราะ" นั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากกระดูกจะหักและคดง้อได้ง่าย จากโรคดังกล่าวทำให้ "จ๊ะจ๋า" ต้องผ่าตัดปีละครั้ง "ผ่าจนชิน" จ๊ะจ๋า และบอกว่านับได้ 24 ครั้งแล้ว และได้กำลังใจจากคนสำคัญนั่นคือแม่ ในความโชคร้ายที่ตนเองเกิดมาแบบนี้ยังมีความโชคดีที่ได้รับคือความรักของแม่ สาวหัวใจแกร่งคนนี้บอกว่า ชีวิตของเธอกับแม่ลำบากกันมาก อดมื้อกินมื้อมานานเท่าไหร่มีแค่สองคนที่รู้...กว่า 22 ปีที่แม่ยึดอาชีพหมอนวดแผนโบราณหาเลี้ยงเธอมา ไม่มีวันลืมภาพตอนเด็กเวลาแม่ไปนวดที่ไหน เธอจะไปด้วย จะมีสมุดวาดรูปเล่มหนึ่งเอาไว้วาดเล่น จะได้ไม่กวนแม่ตอนทำงาน ตอนนี้แม่เลิกอาชีพหมอนวดแผนโบราณแล้ว เธอกับแม่...ผันมาขายของกระเป๋าเอกสาร กระเป๋าใส่ของ ที่ตลาดนัด Rmutt walking street ขายทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป และเพราะเรียนการตลาด ก็ยังมีช่องทางค้าขายผ่านทวิตเตอร์ @Thejajahshop อีกด้วย "วันนี้กำลังจะจบปริญญาแล้ว แม่พาหนูมาไกลมากๆ แต่จากนี้...ชีวิตใหม่ของเราเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จะเจ็บ จะป่วย จะเหนื่อย ก็พร้อมรับมือทุกอย่างแค่มี"แม่"และทุกคนเป็นกำลังใจ" ในเดือน พ.ย. ปี 2560นี้ จ๊ะจ๋า-จิณจุฑา จุ่นวาที จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นความภูมิใจแก่ "แม่" เป็นปริญญาบัตรใบแรกของครอบครัว และเป็นรางวัลชีวิตของเธอ..ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา