เสนอคกก.พระเมรุมาศพิจารณาขยายชั้นบุษบกสูง3ม.เพื่อสง่างามเห็นเต็มองค์ ความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากที่ นายอารักษ์ สังหิตกุล อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะวิศวกรที่ปรึกษาโครงสร้างพระเมรุมาศ ให้ความเห็นว่า ชั้นบุษบก มี 7 ชั้น จะต้องมีการขยายของแต่ละช่วงชั้นประมาณ 10 – 20 ซม. รวมแล้วขยายชั้นของบุษบกสูงขึ้นไปประมาณ 3 เมตร สาเหตุที่ต้องขยายบุษบกของแต่ละชั้นให้สูงขั้นไปนั้น เพราะว่ามุมมองของคนเรา เวลาที่ยืนอยู่บนพื้นดินแล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ยอดพระเมรุมาศ จะดูซ้นหรือเรียกว่ากินอากาศ ทำให้มองดูยอดพระเมรุมาศเตี้ยและไม่สง่างาม ต่างจากที่เรามองแบบพระเมรุมาศที่เขียนอยู่ในกระดาษระดับแนวนอน จะเห็นความสวยงามพระเมรุมาศแบบเต็มองค์ ดังนั้น จึงคิดว่าบุษบกต้องมีการขยายแต่ละชั้นตามกันขึ้นไป เพื่อที่จะให้การมองพระเมรุมาศจากพื้นดินขึ้นไปเห็นความสวยงามตามรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย และจากที่พระเมรุมาศออกแบบเดิมจากฐานถึงยอดสูง 50.49 เมตร เมื่อขยายบุษบกขึ้นไปแล้วพระเมรุมาศจะสูงประมาณ 53 เมตร ล่าสุด (20 มี.ค. 60) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ กล่าวว่า ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง และติดตามความคืบหน้าด้านขยายแบบ และศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศที่อาคารวิธานสถาปกศาลา และโรงขยายแบบต่างๆ เพื่อรับทราบข้อมูลการปฏิบัติงานจริง ก่อนที่จะมีการประชุมกันที่โรงละครแห่งชาติ โดยจะสรุปภาพรวมการดำเนินงาน และการพิจารณาแบบของการขยายช่วงชั้นของบุษบกพระเมรุมาศให้สูงขึ้นประมาณ 3 เมตร ที่สำนักสถาปัตยกรรมดำเนินการออกแบบเพิ่มเติมป้องกันการกินอากาศ เพื่อให้ยอดของพระเมรุมาศมีความสง่างาม