นายกฯ เผยไทย-ลาว ร่วมมือล่า "โกตี๋" ยอมรับระวังตัวตลอดหลังมีข่าวลอบสังหาร วอนสื่อระมัดระวังเสนอข่าว หวั่นกระทบความเชื่อมั่นประเทศ เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจยึดอาวุธสงครามจำนวนมากจากบ้านพักของเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ภายในบริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 1/1 หมู่ที่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และบ้านปูน 2 ชั้น ซึ่งขณะนี้หลบหนีอยู่ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ว่า เป็นเรื่องของการติดตามอยู่แล้ว ซึ่งได้มีการประสานความร่วมมือในระดับรัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศมาโดยตลอด ซึ่งความร่วมมือต่าง ๆ ดีขึ้น ส่วนจะได้ตัวนายโกตี๋ หรือไม่ต้องใช้เวลาต่อไป นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงข่าวการลอบสังหารตนเองว่า ตนก็ต้องระวังตัวอยู่แล้วเป็นปกติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว "ประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยของผมคือในเรื่องของการนำเสนอข่าว กรณีเรื่องการลอบทำร้ายผู้นำ หรือแม้แต่การจับอาวุธสงคราม ขณะนี้มีการพูดกันไปเรื่อย จาก 10 กระบอกกลายเป็น 30-40 กระบอก ส่วนมันอาจจะมีหรือไม่นั้นก็ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบต่อ และจับกุมกันไป แต่ขอร้องว่าอย่าไปประโคมข่าวกันมากนัก อย่าลืมว่าข่าวทั้งหมดออกไปยังต่างประเทศ เขาจะมองว่าประเทศไทยยังมีเรื่องฆ่าผู้นำกันอยู่ อาวุธสงครามเกิดขนาดนี้เลยหรือ เรื่องเหล่านี้ต้องระมัดระวัง เพราะมันมี 2 ด้าน ผมไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เสนอข่าวเลย เพราะเรื่องนี้ก็ต้องเป็นข่าว แต่ก็อยากให้เบา ๆ หยุดยั้งกันบ้าง คือถ้าจบตรงนี้ จับได้ตรงนี้ แล้วเดี๋ยวพอมีการสอบสวนต่อค่อยมีอีกทีได้หรือไม่ ไม่ใช่ประโคมข่าวต่อกันไปเรื่อย ๆ มันมีความเสี่ยงสูงในเรื่องผลกระทบความเชื่อมั่น และการลงทุนของประเทศ เพราะขณะนี้เรากำลังเดินหน้าปัญหาเศรษฐกิจ ขอร้องสื่อว่า ให้เสนอข่าวกันพอสมควรก็น่าจะพอ ซึ่งเรื่องแบบนี้ทุกคนคิดได้อยู่แล้วว่าควรจะทำแค่ไรอย่างไร บางครั้งเปิดดูในโซเชียลมีเดีย หลายคนก็จะให้ใช้ลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ต้องสนใจใคร หรือต่างชาติ ถ้าทำแบบนั้นวันนี้ประเทศคงอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เราต้องทำตามกฎหมาย และพันธสัญญาให้ได้มากที่สุด บางอย่างถ้าจำเป็นก็ใช้คำสั่งม.44 เท่าที่จำเป็น โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบใด ๆ รัฐบาลนี้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ตลอด ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากต่อการทำงาน เนื่องจากหลายอย่างมีความขัดแย้งสูง ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเช่นนั้น อีกอย่างผมก็รู้ว่ารัฐบาลอยู่ในฐานะแบบนี้ถ้าไปฝ่าฝืนกฎสากลมาก ๆ ก็จะเป็นปัญหา แล้วเราก็จะทำอะไรไม่ได้ เป็นความท้าทายความยาก และง่ายในการทำงาน อย่าคิดว่ามีอำนาจมากแล้วจะทำอะไรได้ทั้งหมด สำหรับคนไทยด้วยกันถ้าเดือดร้อนคนจน เขาก็รับกันไม่ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว