แอมเวย์ชี้แผน 5 ปีเล็งลงทุนระบบไอทีเสริมแกร่งธุรกิจ พร้อมสนุนทำตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อเนื่อง หวังเป้ายอดเติบโตสิ้นปี 6% นายดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัทแอมเวย์ทั่วโลก เปิดเผยว่า แผนการลงทุนบริษัทแอมเวย์ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไปจะยังเน้นพัฒนาระบบเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และส่วนอื่นๆเพื่อให้การบริหารงานภายในองค์กรมีความรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจแอมเวย์และลูกค้าทั่วไปให้เข้าถึงแอมเวย์ได้อย่างทั่วถึง ด้วยลงทุนมากกร้อยละว่า50เนื่องจากเทคโนโลยีมีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจแอมเวย์ให้เติบโตได้มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดต้นทุนลงด้วย ด้านแผนการทำตลาดบริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่ทำสัดส่วนยอดขายสูงถึงร้อยละ 46 ของยอดขายแอมเวย์ทั่วโลก เนื่องจากเทรนด์ความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองซึ่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับแนวคิดของธุรกิจแอมเวย์ มีแนวโน้มสูงขึ้นมากถึง ร้อยละ77 โดยจากผลการสำรวจความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ในปี 2559 ซึ่งจัดทำโดยแอมเวย์ พบว่าผู้คนมองหาอาชีพอิสระที่ตอบสนองความต้องการของตนเองอย่างเช่นแอมเวย์ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจแอมเวย์ขยายตัวได้อีกมากในอนาคต ขณะที่กลยุทธ์จะใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเป็นเจ้าของกิจการดังกล่าว คือ แอมเวยเน็กซ์ (AmwayNEXT) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะรายบุคคล รวมถึงสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในอาชีพ ด้านแผนการสนับสนุนการทำตลาดในไทยบริษัทแม่ยังมั่นใจในตลาดไทยและให้การสนับสนุนต่อเนื่อง พร้อมวางกลยุทธ์ต่างๆ 3 เรื่อง 1. มุ่งพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆด้านสุขภาพและความงามเข้าทำตลาดต่อเนื่อง 2.การพัฒนาการฝึกอบรมผู้จัดจำหน่ายโดยใช้โซเชียวมีเดียเข้ามาช่วยในการฝึกอบรม และ 3.ยังคงใช้โซเชี่ยวมีเดียวเพื่อเป็นช่องทางสื่อสารไปยังผู้บริโภคและนักธุรกิจต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมตลาดขายตรงทั่วโลกปีนี้คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6-7 โดยแอมเวย์วางเป้ายอดขายไว้ที่ร้อยละ 6 จากปีที่ผ่านมามียอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตลดลงจากปี 2558 เนื่องจากตลาดแอมเวย์ในประเทศจีนที่หดตัวลงกระทบกับยอดขายทั่วโลก ปัจจุบันตลาดจีนยังคงมีสัดส่วนยอดขายเป็นอันดับ 1 อันดับ 2 คือ เกาหลี , อเมริกา อันดับ 3, ญี่ปุ่น อันดับ 4 และ ไทยอันดับ5.