“เสรี” ยันไม่ได้วางเพลิงเพื่อทำลายเอกสารสำคัญ แจงทุกเม็ดเอกสารร้องเรียนอยู่ครบ หากมีเรื่องร้องเรียนพร้อมส่งหลักเอกสารไปยังสตง.-ป.ป.ช.ตรวจสอบ เผยเรื่องร้องเรียนถึงสตง.ส่งเอกสารไปยังสำนักงานใหญ่สตง.หมดแล้ว คาดเพลิงไหม้เกิดจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มี.ค. นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) แถลงภายหลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สำนักงานใหญ่กปภ. อาคาร 2 ชั้น 4 เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขอยืนยันว่าเอกสารสำคัญต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนเอกสารที่ถูกเพลิงไหม้ในอาคาร 2 ชั้น 4 นั้นคือกองกิจการประปา 3 ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของรองผู้ว่าการภาค 3 ที่ดูแลภาคตะวันออกที่ไม่มีเอกสารสำคัญอะไร แต่เอกสารร้องเรียนและเอกสารสำคัญต่างๆ จะถูกเก็บไว้ที่ชั้น 2 ที่เรียกว่ากองงานวินัยซึ่งไม่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเอกสารสัญญาก่อสร้างที่อยู่ชั้น 1 ก็ไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ชั้นล่างสุดเป็นกองการจัดหาซึ่งเก็บเอกสารการประมูลจัดซื้อจัดจ้างไว้ในชั้นนี้ก็ไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ทั้งนี้หากมีเรื่องร้องเรียนอะไรเข้ามา กปภ.พร้อมส่งเอกสารให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ตรวจสอบ และยืนยันไม่ได้เป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายเอกสารสำคัญ “ในส่วนห้องทำงานสตง.ที่อยู่ชั้น 4 นั้น หน้าที่หลักของสตง.ในสำนักงานใหญ่กปภ. มีหน้าที่รับรองงบการเงินของกปภ.ประจำปี ซึ่งงบการเงินปี 59 ได้ตรวจสอบและส่งมายังกปภ.แล้ว หนังสือรายงานเรื่องงบไม่ได้เสียหาย ส่วนเอกสารต่างๆ ภายในสตง.นั้น เป็นเอกสารส่วนตัวของสตง. ซึ่งกปภ.ไม่สามารถรับทราบได้ แต่เรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่มายังสตง. เอกสารทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของสตง.แล้ว ที่บอกว่าชั้นนี้เป็นชั้นเก็บเอกสารสำคัญมากมายนี่คือข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้น”นายเสรี กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามเรื่องเหตุเพลิงไหม้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด 10 คนได้ไปให้การกับตำรวจเรียบร้อยแล้วรวมถึงตนด้วย สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ในกปภ.คาดว่ามาจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และตัดเรื่องวางเพลิงไปได้ แต่ขอให้รอฟังผลสรุปจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง และการวางระบบทุกอย่างน่าจะกลับมาใช้งานได้ปกติภายใน 6 เดือน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าว นายเสรีได้ใช้จอโปรเจ็กเตอร์เปิดภาพเพื่ออธิบายโครงสร้างตัวอาคารของสำนักงานกปภ. ให้เห็นภาพชัดเจนและความเชื่อมโยงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามในวันนี้พนักงานกปภ. ได้นำเอกสารจากชั้น 1-3 ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดน้ำมาตากแดดบริเวณรอบอาคาร 2 ให้แห้งโดยเร็ว ส่วนชั้น 4 ที่ถูกเพลิงไหม้จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปโดดเด็ดขาดเพราะต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน นอกจากนี้นายเสรีได้ชี้แจงเอกสารร้องเรียนทั้ง 30 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีมูล 7 เรื่อง อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาให้งานเดินต่อ 11 เรื่อง เรื่องที่ตรวจสอบข้อมูลและตั้งคณะกรรมการ 7 เรื่อง เรื่องถึงสตง. ป.ป.ช. และชั้นศาล 6 เรื่อง ทั้งนี้ประกอบด้วยเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง 7 เรื่อง โครงการก่อสร้างล่าช้า 16 เรื่อง เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ 3 เรื่อง ขบวนการทำงานการบริหารจัดการ 3 เรื่อง และเรื่องอื่นๆ อีก 2 เรื่อง ซึ่งเรื่องทุกอย่างเดินไปตามกรอบ