เมื่อเวลา 06.00น.วันที่ 23 มี.ค 60 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. มอบหมายสั่งการให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช รองผบช.ก.พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ รองผบก.ป.พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ รอง ผบ.ร.14, พ.อ.อุลย์ ชมเย็น รอง ผบ.มทบ.31 พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4.บก.ป. นำกำลังตำรวจกก.4.บก.ป. คอมมานโด กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทางหลวง รวม400นาย เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นผู้มีอิทธิพล ตามแผนยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ปูพรมเข้าตรวจค้นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี 30 จุด โดยจุดที่สำคัญ จุดแรก พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. นำกำลังคอมมานโด เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายปภาวิชญ์ บุษวะดี หรือสจ.เปี๊ยก เลขที่ 40/2-3 ต.หลุมเข้า อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวหนึ่งชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ ติดริมแม่น้ำสะแกกรัง จากการตรวจค้นไม่พบตัวนายปภาวิชญ์ พบเพียงผู้ดูแลภายในบ้าน จากการสอบถามผู้ดูแลให้การว่า สจ.เปี๊ยก ไปทำบุญไหว้พระ 9 วัดที่จ.เชียงใหม่ ไม่ได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันแล้ว และยังไม่ได้มีกำหนดเดินทางกลับ นอกจากนี้กำลังอีกชุดไปเข้าตรวจค้นค่ายมวย สจ.เปี๊ยก ซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าบ้านสจ.เปี๊ยก เบื้องต้นพบนักมวยในสังกัดกว่า 31 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบประวัติของนักมวยทุกคนไว้เพื่อตรวจสอบว่ามีเคยก่อเหตุหรือไม่ ขณะที่กำลังอีกชุดนำโดย .พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส รองผบก.ป. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 51/1 หมู่ที่ 3 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายสายชล วิสุชาติ สารวัตรกำนันตำบลลานสัก โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านปูน ชั้นเดียว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก ปืนลูกซองจำนวน 7 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในห้องเก็บห้องภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นนายสายชล เปิดเผยว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนอปป.ที่ทางราชการให้มา โดยเพิ่งได้รับมอบเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้เข้าตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายนักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่น และผู้อิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี อาทิ บ้าน ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ บ้านไม่ทราบเลขที่ บ้านกลางเขา หมู่ที่ 7 ต.ดอนขวง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ผลการตรวจค้นพบ ลูกซอง 5 นัด ,บ้านของ นายปัญญา โต๋วสัจจา เลขที่ 57/2 หมู่ที่ 1 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย บ้านของนายสุริยา (กำนันเปี๊ยก) สุวานนท์ เลขที่ 31 หมู่ที่ 1 ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ภายหลังการตรวจค้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก., พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 พล.ต.วิธัต เสมาชัย ที่ปรึกษา ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ รอง ผบช.รร.นรต., พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป., พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี, พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4, พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ประจำ บช.ก., นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายพงษ์พันธุ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นผู้มีอิทธิพล ตามแผนยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ปูพรมเข้าตรวจค้นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี 30 จุด พร้อมของกลางอาวุธปืนยาวและปืนสั้น31 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 28 นัด ซองกระสุนปืน 4 อัน และ เสื้อเกราะ3 ตัว พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น กำหนดให้มีการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่มีพฤติการณ์ เป็นผู้กระทำความผิด 16 มูลฐานความผิด และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายสั่งการให้ชุดปฏิบัติสืบสวน สอบสวน ปราบปรามจับกุม ผู้กระทำความผิดตามนโยบายของรัฐบาล โดยจากการสืบสวน หาข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พบว่าในพื้นที่ จ.อุทัยธานี มีบุคคล ที่มีพฤติการณ์มีอาวุธปืน อาวุธสงครามไว้ในความครอบครอง และนำไปใช้ในการก่อเหตุร้าย หลายครั้ง โดยมีผู้ร่วมกระทำความผิดลักษณะเป็นเครือข่ายหลายคน จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นข่าว ซึ่งพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น จึงได้สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าปฏิบัติการ ทั้งนี้เป้าหมายทั้ง 30 จุดที่ตรวจค้นเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ทางการได้จับกุมนายสุภาพ โต๋วสัจจา อดีตนักการเมืองและพวก ซึ่งในส่วนของสจ.เปี๊ยกมีความเกี่ยวโยงหรือไม่นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้รายละเอียดอยู่ในสำนวน แต่การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลมา ในส่วนที่มีการตรวจพบปืนทางราชการที่อยู่ในบ้านสารวัตรกำนันส่วนนี้ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีก็ต้องนำไปตรวจสอบที่มาที่ไป และตรวจสอบปืนว่าเคยนำมาก่อเหตุหรือไม่ เช่นเดียวกับปืนที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดโดยมอบหมายให้ บก.ภ.จว.อุทัยธานี และ ประสานศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบนำไปเปรียบเทียบในฐานข้อมูลว่ามีการนำมาใช้ก่อเหตุหรือไม่