“มาทำให้ ไม่ทำเอา ไม่หวังเรื่องผลประโยชน์ทุกชนิด” “เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก เพราะถือว่านี่คือเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งหมด หากสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดี ถนนหนทางเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ การจราจรคล่องตัว ไม่มีปัญหาน้ำท่วม บ้านเมืองน่าอยู่ สะอาด ปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็จะมาเที่ยวเอง เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามา เศรษฐกิจดี ประชาชนมีรายได้ ก็จะมีความสุขไปโดยอัตโนมัติ” “ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ มาทำให้ ไม่ทำเอา ไม่หวังเรื่องผลประโยชน์ทุกชนิด ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สิ่งที่ถูกกฎหมายไม่ต้องมาวิ่งเต้นเพราะจะทำให้อยู่แล้ว สิ่งที่ผิดกฎมาย ก็ไม่ต้องมา เพราะไม่มีทางได้ โดยทีมงานที่นำเข้ามาทำงานนั้นตั้งใจเข้ามาทำงานให้เมืองพัทยา โดยไม่มีวัตถุประสงค์แฝง ไม่ต้องคำนึงถึงฐานเสียง เพราะเราไม่เล่นการเมืองอยู่แล้ว ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ โดยเน้นการทำงานเรื่องการพัฒนา สร้างเมืองพัทยาให้สวยงาม สะอาด ปลอดภัย ไม่มีปัญหาจราจร ไม่มีปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานให้เมืองพัทยา โดยไม่ไปก้าวก่ายเรื่องอื่นๆ เดินหน้าทำงานเรื่องการพัฒนาเมืองพัทยาอย่างเดียว เมื่อภารกิจจบก็แยกย้าย โดยไม่ต้องการผลประโยชน์อื่นแอบแฝง” นี่คือความตั้งใจ ของ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา ที่ได้รับเลือกให้มาทำหน้าที่ผู้บริหารเพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้กับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแห่งนี้ พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า การที่เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก เพราะถือว่านี่คือเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งหมด หากสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดี ถนนหนทางเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ การจราจรคล่องตัว ไม่มีปัญหาน้ำท่วม บ้านเมืองน่าอยู่ สะอาด ปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็จะมาเที่ยวเอง เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามา เศรษฐกิจดี ประชาชนมีรายได้ ก็จะมีความสุขไปโดยอัตโนมัติ “ปัญหาหลักๆที่ต้องการจะทำการแก้ไขให้สำเร็จหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง คือ ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาขยะ ปัญหาการจราจรที่มันติดขัด โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมขณะนี้ได้มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมแล้ว คือ การลอกคลอง ในเมืองพัทยา โดยเอารถแม็คโคเข้าไปขุดลอก ให้มีความลึกขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้มีทางน้ำไหล นอกจากนี้ในส่วนของท่อน้ำไหล ท่อน้ำเสียทั้งหลายก็จะมีการขุดลอกทั้งหมด ซึ่งปัญหาเรื่องน้ำที่มาท่วมเมืองพัทยา เป็นผลมากจากน้ำที่ไหลมาจากด้านเขาตะโล ฝั่งถนนสุขุมวิท ที่เป็นพื้นที่เขา ไหลลงมาทางฝั่งทะเล ด้วยปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามากกว่าปริมาณที่สามารถระบายออกได้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ซึ่งจากการคำนวนปริมาณน้ำที่ผ่านมาพบว่าปริมาณน้ำที่สามารถทำการระบายออกนั้นมีปริมาณน้อยกว่าน้ำไหลเข้า ถึง 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำส่วนเกินเหล่านี้ไหลเข้าท่วมเมือง” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาการระบายน้ำเพื่อไม่ให้ท่วมเมืองพัทยานั้น ได้มีการทำเรื่องของบประมาณในการสร้างอุโมงค์ผันน้ำลงคลอง ซึ่งได้รับการอนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ดังนั้นในปีนี้จึงได้มีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยได้ประสานไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อขอเครื่องสูบน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ได้มีการซื้อไว้สมัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 จำนวนกว่า 100 เครื่อง เพื่อป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรม แต่ขณะนี้เครื่องไม่ได้ใช้งาน จึงได้ไปพบผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประสานของเครื่องสูบน้ำมาประมาณ 80-90 เครื่อง และได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยจะเอามาวางตามจุดต่างๆที่คาดว่าจะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วม ซึ่งปีนี้เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้ดีในระดับหนึ่ง อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 100% แต่จะพยายามทำให้น้ำไหลเข้าและไหลออกมีปริมาณที่สมดุลกันให้ได้ ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาจราจร นายกเมืองพัทยา บอกว่า ก่อนหน้านี้ในเมืองพัทยาจะมีกลุ่มรถยนต์ รถจักรยานยนต์ให้เช่า มาใช้พื้นที่ผิวจราจรในการดำเนินธุรกิจ ทำให้มีการกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดปัญหารถติด แต่ปัจจุบันได้มีการจัดระเบียบใหม่ โดยในส่วนของมอเตอร์ไซค์ให้จอดได้ไม่เกิน 3 คัน ที่เหลือให้ไปหาที่จอดที่อื่นที่ไม่ใช่บนผิวจราจร ส่วนรถยนต์จอดได้ไม่เกิน 1 คัน ทำให้ปัจจุบันสามารถคืนพื้นที่ผิวจราจรได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปัญหาเรื่องการจราจรในขณะนี้เบาบางลงไปมาก พล.ต.ต. อนันต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มีการจัดระเบียบรถสองแถว โดยผู้ได้รับสัมปทานให้วิ่งเส้นไหนก็ต้องวิ่งแต่เส้นนั้น ห้ามไม่ให้ไปวิ่งรับเหมาส่งนักท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปนอกเขตพื้นที่สัมปทาน ต้องวิ่งเฉพาะในเส้นทางที่ได้รับสัมปทานเท่านั้น เรื่องนี้ทางเมืองพัทยามีการจัดระเบียบอย่างเคร่งครัด รถที่ได้รับสัมปทานต้องมีต้นทาง ปลายทางที่ชัดเจน โดยมีการใช้เจ้าหน้าที่เทศกิจในการกำกับดูแล เพราะก่อนหน้าที่มีการวิ่งรับส่งกันแบบไม่มีระเบียบ ไม่มีการจัดสายเดินรถที่ชัดเจน ซึ่งการเข้ามาจัดระเบียบเรื่องรถสองแถวนี้ก็ไม่ได้ทำการควบคุมอะไรมาก แค่ให้ทำตามระเบียบกฎหมายเท่านั้นเอง “เรื่องวิศวกรรมจราจร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้มีการนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการจราจร เพราะในอนาคตพัทยาเหนือ จะมีห้างขนาดใหญ่และคอนโด ที่พักอาศัยขนาดใหญ่ เกิดขึ้นอีกมาก ทำให้จำคนที่มาเที่ยวห้างและพักอาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านจราจรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงได้มีการอนุมัติงบประมาณ8 ล้านกว่าบาทในการปรับปรุงวงเวียนปลาโลมา ให้เป็นแยกไฟแดง เพราะรถที่มาจากพัทยากลาง จะไปนาเกลือ จะลงทะเล ไปพัทยาเหนือ หรือจากพัทยาเหนือ จากนาเกลือ จะไปพัทยากลาง ก็ต้องผ่านจุดวงเวียนปลาโลมาทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด จึงได้มีการสั่งปรับเปลี่ยนจากวงเวียนมาเป็นแยกไฟแดง ซึ่งได้มีการออกแบบแบบเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอการประกวดราคา หาผู้ดำเนินการ โดยได้ให้นโยบายไปว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จรวดเร็วที่สุด ต้องมีการวางแผนระดมคน ให้เสร็จเรียบร้อยภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด” นายกเมืองพัทยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อุโมงค์พัทยาเหนือที่กำลังทำการก่อสร้างก็จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้นเดือนเมษายนก็จะสามารถเปิดใช้ได้ ซึ่งจะทันในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างแน่นอน พออุโมงค์พัทยาเหนือเสร็จเรียบร้อยจะทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญตามถนน ตรอก ซอก ซอย ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ที่มีปัญหาทำให้รถชะลอตัว ก็ได้สั่งให้มีการสำรวจอย่างละเอียด และให้มีการปรับปรุงทั้งหมด เพราะปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อก็ทำให้รถชะลอตัวทำให้เกิดปริมาณสะสมของรถ ซึ่งเรื่องปัญหาจราจรนั้นมีองค์ประกอบของปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องวิศวกรรมจราจร เรื่องมารยาทคนขับ เรื่องการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวด้วยว่า จริงๆแล้วการแก้ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของท้องถิ่นไม่ได้ยุ่งยากมาก ถ้าสามารถแก้ปัญหาให้น้ำไม่ท่วม รถไม่ติด ถนนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไฟสว่าง ทางดี บ้านเมืองมีความสะอาด ปลอดภัย ทุกอย่างก็จะดีเอง ไม่ต้องไปโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยว เพราะถ้าทำโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ให้ดี นักท่องเที่ยวก็จะมาเอง “การจะสร้างความสุขให้ประชาชนนั้น ถ้าในพื้นที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่มีปัญหาด้านการจราจร ไม่มีปัญหาน้ำเน่าเสีย ปัญหาขยะ น้ำไม่ท่วม บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำได้แบบนี้ประชาชนเขาก็มีความสุขแล้ว เพราะถ้าทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ให้ดี บ้านเมืองสะอาด มีความปลอดภัย ใครๆก็อยากมาเที่ยว เมื่อมีนักท่องเที่ยวมา ประชาชนก็มีรายได้ เมื่อบ้านเมืองน่าอยู่ เศรษฐกิจดี ประชาชนก็จะมีความสุข” นายกเมืองพัทยา กล่าว ล้อมกรอบ พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ โฆษกเมืองพัทยา “สร้างเอกลักษณ์วิถีไทยให้กลับมาอยู่คู่เมืองพัทยา” พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ “ได้รับมอบหมายจากนายกเมืองพัทยาในเรื่องการประสานงานกับสื่อ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ทราบว่าทีมงานผู้บริหารเมืองพัทยาชุดปัจจุบันมาทำงานเพื่อพัฒนาเมืองพัทยาให้มีความสวยงามมากขึ้น พัฒนาให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งเพศหญิ และชาย ต้องการมาท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่มาพัทยานั้นต่างกัน ไม่เหมือนกับการไปเที่ยวหัวหินที่ทั้งเพศหญิงและชายมีเป้าหมายเดียวกันในการไปเที่ยว แต่การมาพัทยาผู้หญิงคิดแบบหนึ่ง ผู้ชายก็จะคิดอีกแบบหนึ่ง จึงต้องทำให้ความรู้สึกของการมาเที่ยวพัทยาของนักท่องเที่ยวให้เป็นความรู้สึกเดียวกันให้ได้ สามารถพาครอบครัวมาเที่ยวโดยมีเป้าหมายเดียวกันได้ ต้องพัฒนาพัทยาให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม ทำทะเลเราให้สะอาด สะดวก สวยงาม เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัย และสร้างเอกลักษณ์วิถีไทยให้กลับมาอยู่คู่เมืองพัทยา มาประยุกต์ให้มีความสวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยอาศัยความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ภาคเอกชน มาช่วยกันทำ” ปรีชา หยั่งทะเล