ปภ.เผย 26 จว.ยังอ่วมวาตภัย เตือน “เหนือ-อีสาน-ตะวันออก-กลาง”รับมือพายุฤดูร้อน27-29 มี.ค.นี้ ด้าน “เชียงราย-แม่ฮ่องสอน” ยังอ่วมปัญหาหมอกควัน ขณะที่ปภ.เร่งให้การช่วยเหลือ ป้องกันทุกปัญหาอย่างเข้มข้น 26 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 14 – 26 มี.ค. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 26 จังหวัด 98 อำเภอ 177 ตำบล 546 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย5,550 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ บึงกาฬ อำนาจเจริญ อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และหนองบัวลำภู ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ชัยนาท และกำแพงเพชร และภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว และตราด โดยเมื่อวันที่ 25 มี.ค. มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ และอุบลราชธานี รวม 2 อำเภอ 5 ตำบล 50 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 74 หลัง ทั้งนี้จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าในช่วงวันที่ 26 – 29 มี.ค. ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ซึ่งมีลักษณะอากาศของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก โดยช่วงวันที่ 26 มี.ค.จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ส่วนช่วงวันที่ 27 - 29 มี.ค.จะเกิดพายุฤดูร้อนครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งปภ. ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือโดยเร็ว ส่วนสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันยังมี 7 จังหวัดที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลางได้แก่ ลำพูน แพร่ พะเยา น่าน เชียงใหม่ ตาก และลำปาง ขณะที่ 2 จังหวัด มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เกินค่ามาตรฐานตามลำดับ คือจ.เชียงราย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย และจ. แม่ฮ่องสอน ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งปภ.ได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าและหมอกควันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเข้มข้น