"จาตุรนต์"อัดหนักผู้มีอำนาจใจแคบ มองพท.สะท้อนจุดอ่อนหวังเจตนาตีรวนสร้างปรองดอง บอกถึงเวลาพูดตรงๆ ถ้าผิดทิศผิดทาง บิดเบือน ไร้แก่นสาร ไม่ขอเออออห่อหมกลงสัญญาประชาคมด้วย เมื่อวันที่ 26 มี.ค.นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลระบุข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยเป็นการขัดขวางกระบวนการสร้างความปรองดองว่า ส่ิงที่พรรคเพื่อไทยอยากเห็นมากที่สุดอย่างหนึ่งคือเรื่องปรองดอง หมายความว่าสังคมอยู่ร่วมกันได้ถึงแม้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยทุกฝ่ายอาศัยกฎหมายที่เป็นธรรม และกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย ขจัดความขัดแย้งแตกต่างโดยสันติวิธี ทำให้สังคมก้าวหน้าไปได้อย่างราบรื่น แต่ที่เป็นห่วงอยู่คือ ส่ิงที่คณะกรรมการบริหารราชการผ่นดินตามกรอบการปฏิรูประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กำลังทำกันอยู่จะล้มเหลว เพราะว่ากระบวนการที่ทำมีจุดอ่อน ข้อบกพร่องมาก คือขาดผู้มีความรู้ ผู้เชี่ยวชาญและคนที่เป็นกลางช่วยรับฟัง และสังเคราะห์ให้เป็นข้อเสนอในการเป็นทางออก ขาดการพูดถึงปัญหาในอดีตอย่างเป็นระบบ และขาดการมีส่วนร่วมของฝ่ายต่างๆ แม้จะมีการรับฟังความเห็นหลายฝ่าย แต่ยังถือว่าการเปิดให้ฝ่ายต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมยังน้อยเกินไป และยังเป็นไปภายใต้บรรยากาศที่ประชาชนไม่มีเสรีภาพ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อกระบวนการนี้ล้มเหลวก็น่าเป็นห่วงว่าในอนาคตสังคมไทยก็จะเผชิญกับความขัดแย้ง และไม่สามารถพัฒนาไปอย่างราบรื่นได้อีก กลายเป็นมีปัญหาอย่างเดิมหรือหนักกว่าเดิม ส่วนส่ิงที่พรรคเพื่อไทยเสนอไม่ใช่เป็นการตีรวน หรือขัดขวางกระบวนการสร้างความปรองดองที่มีอยู่ แต่เป็นการเสนอเพื่อให้เกิดความสำเร็จ จะเรียกว่าเป็นเงื่อนไขก็ได้ แต่ไม่ใช่เงื่อนไขเพื่อพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเงื่อนไขเพื่อความสำเร็จเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วม "การที่ฝ่ายรัฐมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยขัดขวางการปรองดอง หลังจากที่พรรคทำหนังสือเสนอไปเป็นกิจลักษณะ แสดงถึงความใจแคบของฝ่ายที่มีอำนาจ และที่สำคัญสะท้อนจุดอ่อนกระบวนการปรองดองคือ ไม่ได้ถือว่าทุกฝ่ายในความขัดแย้งแตกต่างมีความเท่าเทียมกัน ยังคิดแค่ว่าฝ่ายนี้ให้พูดได้แค่ไหน พอไม่เข้าหูก็ออกมาพูดให้เสียๆหายๆ ถ้าต่อไปพรรคเพื่อไทยเห็นว่า กระบวนการนี้ผิดทิศผิดทางก็คงต้องพูดกันตรงๆและถ้าสัญญาประชาคมที่จะทำกันต่อไปนี้ กลายเป็นเรื่องที่บิดเบือนความจริง ไม่มีสาระเป็นแก่นสาร ป่วยการที่จะไปรับปากอะไรด้วย ถืงเวลานั้นก็คงต้องพูดกันตรงๆจะให้เออออห่อหมกอะไรที่ไม่ใช่ทางออกของบ้านเมืองคงไม่ได้"นายจาตุรนต์ ทั้งนี้ อยากบอกผู้ที่สนใจผู้ที่ห่วงใยบ้านเมืองว่า ไม่ต้องห่วงพรรคเพื่อไทยจะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งวุ่นวาย พรรคเพื่อไทยจะทำอะไรต่อไปจะได้มีการชี้แจงให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่ขณะนี้ยังไม่ขอพูดเพราะเกรงว่าจะเร็วเกินไป อยากให้ป.ย.ป.ทำงานให้เต็มที่ก่อน แต่หวังว่าป.ย.ป.จะรับฟังข้อเสนอที่เสนอไป ไม่ใช่มองการเสนอความเห็นที่ไม่เข้าหูที่แตกต่างนี้ไปในทางที่เลวร้ายไปหมด เมื่อถามว่า ล่าสุด กรุงเทพโพล ระบุผลสำรวจประชาชนร้อยละ 20.5 มองกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)สั่งกรมสรรพากรตรวจสอบภาษีอดีต 60 นักการเมืองยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเกมทางการเมืองเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เสียสะท้อนจากคนดู ป.ย.ป.ควรรับฟังและนำไปวิเคราะห์ให้ดี ถ้าจะให้เป็นประโยชน์มากๆ ต้องเชิญชวนหรือเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความเข้าใจได้มาแสดงความคิดเห็นหรือช่วยวิเคราะห์ในประเด็นเหล่านี้ สำหรับผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ เราไม่อยากที่จะไปพูดเรื่องนี้ด้วยตนเองมากเกินไป