ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่บ้านเรือน ร้านค้า อาคารดัดแปลง รีสอร์ท โรงแรม ได้ปล่อยสิ่งปฏิกูลลงคูระบายน้ำข้างถนนจนเกิดน้ำเสียมวลรวมในคลองหลายสายของตำบลคึกคักไหลออกสู่ทะเล ซึ่งทำให้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนนักท่องเที่ยว เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในเรื่องของความสะอาด และอาจส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาด ล่าสุด นายนพดล อิงควัชรกุล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายนายวัชรากร เดชประดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้างเทศบาลตำบลคึกคัก ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเน่าเสียของน้ำเสียมวลรวมที่ไหลลงสู่ทะเล
นายนพดล กล่าวว่า ในปีนี้สถานการณ์น้ำเสียที่ไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่ท่องเที่ยวชื่อดังเขาหลัก ได้ลดลงสืบเนื่องจากต้นปี2559 ได้มีการร้องเรียนเรื่องน้ำเสีย ที่เกิดจากสถานประกอบการขนาดเล็ก บ้านเรือน ร้านค้า ที่พักอาศัย ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านเหนือขึ้นไปของลำคลองได้ระบายน้ำเสียลงมา ซึ่งได้มีการสำรวจเบื้องต้น พบว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่จัดการน้ำเสีย เช่น ไม่มีบ่อดักไขมัน จึงทำให้เกิดน้ำเสียขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของฤดูท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดของเสียมาสะสมเป็นจำนวนมาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคจึงได้ให้คำแนะนำท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการทำจุดดักไขมัน ตะกอน และเครื่องเติมอากาศ พร้อมทั้งใช้จุรินทรีย์ประสิทธิภาพสูงในการช่วยกำจัดกลิ่น ซึ่งการดักตะกอนก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้ของเสียไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ทำให้ในปีนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้ลดลง แต่ยังคงต้องทำจุดดักตะกอนเพิ่ม เพื่อให้มีเฉพาะน้ำส่วนที่ใสซึ่งเป็นน้ำที่มีคุณภาพพอใช้ไหลแต่ยังไม่ดีเท่าไหร่ไหลลงสู่ทะเล และอาจจะต้องเพิ่มคอกพืชน้ำเพื่อกำจัดสารอินทรีย์
“ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่ารายการจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้ท้องถิ่นทำการติดตามบังคับใช้กฎหมาย ติดตาม ตรวจสอบ แหล่งกำเนิดน้ำเสียว่ายังคงดำเนินการตามคำแนะนำอยู่หรือไม่ ซึ่งหากพบว่ายังคงมีการปล่อยน้ำเสีย เทศบาลก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ผู้ที่เป็นต้นเหตุต้องรับผิดชอบด้วยการลดปริมาณของเสียที่จะไหลลงสู่คูครองสาธารณะ ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคก็ยังคงตรวจสอบ ควบคุมแหล่งมลพิษที่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 60 ห้อง ขึ้นไป ให้มีค่ามาตรฐานตามกฎหมายกำหนด ซึ่งหากพบเกิน 50% ที่ไม่ปฎิบัติตามและสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคได้ออกคำสั่งให้ทำการแก้ไขไปแล้วก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตาม” นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า ในปีนี้สถานการณ์น้ำเสียที่ไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่ท่องเที่ยวชื่อดังเขาหลัก ได้ลดลงสืบเนื่องจากต้นปี2559 ได้มีการร้องเรียนเรื่องน้ำเสีย ที่เกิดจากสถานประกอบการขนาดเล็ก บ้านเรือน ร้านค้า ที่พักอาศัย ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านเหนือขึ้นไปของลำคลองได้ระบายน้ำเสียลงมา ซึ่งได้มีการสำรวจเบื้องต้น พบว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่จัดการน้ำเสีย เช่น ไม่มีบ่อดักไขมัน จึงทำให้เกิดน้ำเสียขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของฤดูท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดของเสียมาสะสมเป็นจำนวนมาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคจึงได้ให้คำแนะนำท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการทำจุดดักไขมัน ตะกอน และเครื่องเติมอากาศ พร้อมทั้งใช้จุรินทรีย์ประสิทธิภาพสูงในการช่วยกำจัดกลิ่น ซึ่งการดักตะกอนก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้ของเสียไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ทำให้ในปีนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้ลดลง แต่ยังคงต้องทำจุดดักตะกอนเพิ่ม เพื่อให้มีเฉพาะน้ำส่วนที่ใสซึ่งเป็นน้ำที่มีคุณภาพพอใช้ไหลแต่ยังไม่ดีเท่าไหร่ไหลลงสู่ทะเล และอาจจะต้องเพิ่มคอกพืชน้ำเพื่อกำจัดสารอินทรีย์
“ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่ารายการจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้ท้องถิ่นทำการติดตามบังคับใช้กฎหมาย ติดตาม ตรวจสอบ แหล่งกำเนิดน้ำเสียว่ายังคงดำเนินการตามคำแนะนำอยู่หรือไม่ ซึ่งหากพบว่ายังคงมีการปล่อยน้ำเสีย เทศบาลก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ผู้ที่เป็นต้นเหตุต้องรับผิดชอบด้วยการลดปริมาณของเสียที่จะไหลลงสู่คูครองสาธารณะ ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคก็ยังคงตรวจสอบ ควบคุมแหล่งมลพิษที่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 60 ห้อง ขึ้นไป ให้มีค่ามาตรฐานตามกฎหมายกำหนด ซึ่งหากพบเกิน 50% ที่ไม่ปฎิบัติตามและสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคได้ออกคำสั่งให้ทำการแก้ไขไปแล้วก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตาม” นายนพดล กล่าว