เผยคนไทยนิยมเที่ยวนอกกว่า 3 ล้านคนในแต่ละปี ชี้ 55% ที่ไปเที่ยวประเทศกำลังพัฒนามีปัญหาสุขภาพ และ1 ในแสนคนเสียชีวิต ทั้งที่เป็นโรคที่ป้องกันได้ง่ายเพียงฟิตร่างกายให้ดีพอ ระบุมีสิทธิ์ป่วยระหว่างเดินทางได้ทุกขณะ โดยเฉพาะถ้ากำลังป่วยอย่าไปเด็ดขาด มีโรคประจำตัวต้องห้ามขาดยา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดก.สาธารณสุข และโฆษกก.สาธารณสุขกล่าวว่า ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ปีละกว่า 3.4 ล้านคน และพบว่าร้อยละ 55 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศกำลังพัฒนาจะเกิดปัญหาสุขภาพ โดยร้อยละ 8 มีปัญหาสุขภาพต้องพบแพทย์และประมาณ 1 ใน 100,000 คนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ถ้ามีความรู้ความเข้าใจและการเตรียมตัวที่ดีพอ สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง เกิดได้จากสุขภาพของผู้เดินทาง ได้แก่ วัย โรคประจำตัว พฤติกรรมการเดินทางได้แก่ กิจกรรม ที่พัก สภาพภูมิประเทศ พื้นที่ที่มีโรคประจำถิ่น ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อเกิดโรคเพิ่มมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ ความสะอาดและระบบสุขาภิบาล การบริการทางการแพทย์ การป้องกันควบคุมโรครวมทั้งอุบัติเหตุก็เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตระหว่างเดินทางท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ ก่อนเดินทาง ควรหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เช่น สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศในการเตรียมความพร้อม ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วยที่เคยเป็นมาก่อน การตั้งครรภ์ ภูมิแพ้ต่างๆ ประวัติการใช้ยา และวัคซีนที่ควรได้รับเพื่อป้องกันโรคก่อนเดินทาง และควรเตรียมความพร้อมร่างกายให้แข็งแรงก่อนเดินทาง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นไข้หวัด หลีกเลี่ยงสูบบุหรี่ ดื่มสุรา นอกจากนี้ ไม่ควรเดินทางขณะป่วย ระหว่างท่องเที่ยว ควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นเสมอโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงหรือหนาวมากๆ ควรสวมเสื้อผ้าหนาๆ สวมถุงมือถุงเท้าสวมหมวก ไม่ควรดื่มสุราแก้หนาว เนื่องจากระยะแรกจะทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบเกิดจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง หากดื่มสุราในปริมาณมาก ฤทธิ์แอลกอฮอล์จะกดประสาทส่วนกลางทำให้เมา อาจหลับโดยไม่รู้ตัว และถ้ามีเครื่องนุ่งห่มให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ เป็นเวลานานอาจเสียชีวิตได้เช่นกัน ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องเตรียมยาประจำตัว เอกสารการแพทย์ที่จำเป็นติดตัวไปด้วยเสมอ ภาพ http://www.dplusguide.com/