นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย จำนวน 82 รายเข้าร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2020 ระหว่างวันที่ 8–10 มกราคม 2563 ณ India Expo Mart, Greater Noida กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในสาธารณรัฐอินเดีย โดยประเทศไทยเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน แบ่งเป็น โรงแรม 36 ราย Tour Operator 29 ราย สายการบิน 4 ราย และอื่น ๆ 13 ราย (สวนสนุก สวนน้ำ ตลาดน้ำ และคาบาเร่ท์)
ซึ่งในจำนวนผู้เข้าร่วมงานมีผู้ประกอบการรายใหม่จำนวน 20 ราย โดยมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 50,000 คน และมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวกว่า 1,000 คูหา ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมหลัก คือ การเจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจทางการท่องเที่ยวอินเดียกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศ (B2B) และภายในงานยังมีการสาธิตการวาดร่มและการสานปลาตะเพียน ที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นคุณค่าและเอกลักษณ์วิถีไทยสร้างความสนใจให้แก่ผู้เข้าร่วมชมงาน
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางออกนอกประเทศในปี 2561 มีจำนวน 23.94 ล้านคนจากปี 2559 ที่มีประมาณ 21.87 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ UNWTO คาดว่า ในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศถึง 25 ล้านคน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสในการแบ่งสัดส่วนให้จำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นจากตัวเลข ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทย จำนวน 1,596,772 คน เพิ่มขึ้น 12.83% เมื่อเทียบกับปี 2560 และในส่วนของปี 2562 ช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2561 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทย จำนวน 1,806,516 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 26.31% และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1,900,000 คน เพิ่มขึ้น 22% สร้างรายได้ประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ขณะที่จากสถิติในปี 2562 นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย คือ แหล่งท่องเที่ยวหลัก ซึ่งเป็นที่นิยมของตลาด เช่น กรุงเทพฯ พัทยา และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย เชียงราย กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และเกาะช้าง เป็นต้น และกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คือ กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ กลุ่มเดินทางเพื่อการประชุม รวมถึงกลุ่มฮันนีมูนอีกด้วย
ซึ่งในจำนวนผู้เข้าร่วมงานมีผู้ประกอบการรายใหม่จำนวน 20 ราย โดยมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 50,000 คน และมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวกว่า 1,000 คูหา ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมหลัก คือ การเจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจทางการท่องเที่ยวอินเดียกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศ (B2B) และภายในงานยังมีการสาธิตการวาดร่มและการสานปลาตะเพียน ที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นคุณค่าและเอกลักษณ์วิถีไทยสร้างความสนใจให้แก่ผู้เข้าร่วมชมงาน
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางออกนอกประเทศในปี 2561 มีจำนวน 23.94 ล้านคนจากปี 2559 ที่มีประมาณ 21.87 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ UNWTO คาดว่า ในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศถึง 25 ล้านคน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสในการแบ่งสัดส่วนให้จำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นจากตัวเลข ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทย จำนวน 1,596,772 คน เพิ่มขึ้น 12.83% เมื่อเทียบกับปี 2560 และในส่วนของปี 2562 ช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2561 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทย จำนวน 1,806,516 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 26.31% และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1,900,000 คน เพิ่มขึ้น 22% สร้างรายได้ประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ขณะที่จากสถิติในปี 2562 นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย คือ แหล่งท่องเที่ยวหลัก ซึ่งเป็นที่นิยมของตลาด เช่น กรุงเทพฯ พัทยา และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย เชียงราย กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และเกาะช้าง เป็นต้น และกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คือ กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ กลุ่มเดินทางเพื่อการประชุม รวมถึงกลุ่มฮันนีมูนอีกด้วย