จากกรณี น.ส.วาสนา บุระคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ระดับซี 4 ถูกนายจำลอง พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี ที่นำเอกสารของนายจรัญ คูนา อายุ 45 ปี ผู้เป็นน้องชายมาสมัครทำงานเป็นพนักงานขับรถคุรุสภา ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตบริเวณสนามหญ้าภายในสำนักงานคุรุสภา แขวงและเขตดุสิต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น วันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ยังติดตามความเคลื่อนไหวของนายจำลองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านญาติตามต่างจังหวัด และครูสาวรายหนึ่ง(ขอสงวนชื่อนามสกุล) ใน อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับนายจำลอง ที่สำนักงานเขตลาดพร้าว ไปในช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค. ก่อนจะมาก่อเหตุยิงน.ส.วาสนา ในช่วงเย็น แต่เจ้าตัวยังคงเก็บตัวเงียบไม่ได้ติดต่อใคร นอกจากนี้ชุดสืบสวน จะทำการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงเช้าวันเกิดเหตุนั้น นายจำลอง ไปจดทะเบียนสมรสกับครูสาวคนดังกล่าว จากนั้นในช่วงเที่ยงก็แยกตัวกลับมาที่ห้องพัก ในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ย่านสามแยกพิชัย ซึ่งนายจำลอง เปิดพักร่วมกับผู้ตาย ก่อนขี่รถจยย.มาทำงานที่คุรุสภา โดยมีการเคลียร์ปัญหากับผู้ตายไปแล้ว 1 รอบ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จากนั้นนายจำลอง ก็กลับไปนั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนต่อ ก่อนจะมาเคลียร์ปัญหากับผู้ตายรอบที่ 2 ก่อนจะก่อเหตุยิงผู้ตายจนสียชีวิต ซึ่งชุดสืบสวนจึงเตรียมเรียกพยานบุคคลเหล่านี้มาสอบว่า นายจำลอง พูดหรือเล่าปัญหาอะไรให้กลุ่มเพื่อนหรือพยานคนอื่นๆฟังเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่สอบปากคำไปแล้วหรือไม่ มีรายงานว่า ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวน กำลังเร่งตรวจสอบประวัติย้อนหลังของนายจำลองกลับไปตั้งแต่วุฒิการศึกษาเป็นต้นมา เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า ทำไมเจ้าตัวถึงต้องทำการปลอมแปลงเอกสาร ใช้ชื่อของนายจรัญ คูนา น้องชายร่วมมารดา มาทำการสมัครงานที่คุรุสภา เนื่องจากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายลำจองแล้วนั้น ไม่พบว่าเคยต้องโทษคดีใดมาก่อน รวมทั้งไม่ได้มีประวัติเป็นมือปืนรับจ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้จะเข้าไปตรวจสอบในห้องพัก ย่านสามแยกพิชัย ว่ามีหลักฐานหรือที่พักจุดอื่นๆ ของนายจำลอง เพิ่มเติมอีกหรือไม่