จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. จับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ก่อนจะขยายผลกระทั่งสามารถจับกุมนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ซึ่งให้การซัดทอดว่าหนึ่งในทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนั้นนำไปไว้ที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ก่อนที่ภายหลังนายอัครกิตติ์ จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินและสมคบการฟอกเงินต่อมาน.ส.ณปภา และแม่นายอัครกิตต์เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนบช.ปส. เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจ พบเงินในบัญชีสูงผิดปกติ และล่าสุดเมื่อวัน31มีนาคม น.ส.ณปภาเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมในบางรายการนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 1มษายน 60 พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผบช.ปส.เปิดเผยว่าจากการตรวจเอกสารทางการเงินของน.ส.ณปภา พบว่าเงินจำนวน1.9ล้านบาทที่ตำรวจสงสัยในบัญชีของน.ส.ณปภานั้น ทางด้านน.ส.ณปภา ยอมรับว่าเป็นเงินของนายอัครกิตติ์จริง ซึ่งได้มาในฐานะของคู่รักกัน โดยระบุว่าน.ส.ณปภาไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวนายอัครกิตต์ได้มาจากที่ใด ก่อนที่น.ส.ณปภา ได้มีการคืนเงินไปประมาณ 4 แสนบาทแล้ว โดยในส่วนจำนวนเงินที่เหลือนั้น ตำรวจบช.ปส.จะอายัดไว้ตรวจสอบ และน.ส.ณปภาก็ยินดีจะให้อายัด อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาน.ส.ณปภาในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง ในการกระทำความผิด ซึ่งต่างจากกรณีีรถโบกินี่ที่นายอัครกิตติ์ครอบครอง ที่มีการยืมเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดของนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย มาใช้ซื้อ