เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 60 ร.ต.อ.ทศพร ดุดง รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อู่ซ่อรถยนต์ บริษัทเฟอร์เฟคสปีดไลน์ จำกัด เลขที่ 84 ซอยวิภาวดีรังสิต86 ถนนวิภาวดีขาเข้า แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและประสานรถน้ำสจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรุงเทพมหานคร รถน้ำเทศบาลเมืองคูคต และหน่วยดับเพลิงตลาดใหม่ดอนเมือง จำนวน 5 คัน ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตรภายในเป็นโครงสร้างเหล็กชั้นเดียว ประกอบกิจการเคาะพ่นสีรถยนต์ เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา ภายในมีการแบ่งเป็นห้องผสมสี ห้องพ่นสี อบสีจำนวน 3 ห้อง พบกลุ่มควันและแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องพ่นและอบสีอยู่เจ้าหน้าที่จึงเร่งใช้น้ำสกัดเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงสงบ พบห้องอบสี พ่นสี เสียหายจำนวน 3 ห้อง หลังคาทะลุเสียหาย รวมเนื้อที่ประมาณ 100 ตาตรางเมตร ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ต่อมาพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รอง ผกก.( สอบสวน ) สน.ดอนเมือง และน.ส.วรรณดี สนชัย ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนนายหนึ่ง( นามสมมุติ ) ช่างสีที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า อู่ที่เกิดเหตุเป็นอู่รับซ่อมรถ และรับเคลมทำสี ในเครือบริษัทวิริยะประกันภัย ซึ่งในวันนี้เป็นวันหยุด แต่ตนรับทำโอทีเนื่องจากช่วงนี้มีรถเข้ามาเคลมเป็นจำนวนมาก โดยก่อนเกิดเหตุตนกำลังเตรียมพ่นสีรถยนต์อยู่ที่ห้องพ่นสีห้องที่ 1 ถัดจากห้องผสมสี ระหว่างนั้นได้เดินออกมาด้านนอกซักพักได้ยินเสียงคล้ายไฟสปาร์ค กับอะไรบางอย่าง เมื่อหันกลับไปดูพบแสงเพลิงลุกขึ้นมาจากด้านหลังห้องพ่นสีที่กำลังทำงานจึงรีบวิ่งไปถอยรถยนต์ออกมาด้านนอก ก่อนจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และใช้ถังดับเพลิงมาดับแต่เอาไม่อยู่จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ ร.ต.อ.ทศพร เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าขณะเกิดเหตุมีการทำงานในห้องพ่นสี แล้วเกิดไฟฟ้าลัดวงจรทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นโชคดีที่เพลิงลุกไหม้เฉพาะโครงสร้างของห้องพ่นสี ห้องอบสี จำนวน 3 ห้องเท่านั้น ไม่มีรถยนต์ของลูกค้าที่มาใช้บริการได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเรียกเจ้าของอู่และช่างมาสอบสวนและประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งจะประสานฝ่ายโยธาของสำนักงานเขตดอนเมืองเพื่อเข้าตรวจสอบโครงสร้างว่าได้รับความเสียหายด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ได้เนื่องจากต้องรอสอบสวนเจ้าของอู่เพิ่มเติมอีกครั้ง