เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เวลา 11.00น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.คณะผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษสำนักงานป.ป.ช. เรื่องขอให้ตรวจสอบและเร่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนการอาจจะทุจริต การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School ใน12เขตพื้นที่การศึกษา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 405,079,680 บาท โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีบริษัทเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าวทั้ง 12 เขตพื้นที่การศึกษา 4 บริษัท และส่อเค้าฮั้วประมูล ให้ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวทั้ง 4 บริษัท โดยเฉลี่ยกันไปทั้ง 12 เขต และทั้ง 4 บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทเดียวกันในการติดตั้งกล้องวงจรปิด นอกจากนี้ยังพบว่า 12 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่มีห้องควบคุม และระบบสัญญาณเตือนภัยทั้งไฟไหม้ รวมทั้งระบบจดจำใบหน้าคนร้ายก็ไม่สามารถแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์ได้ จึงขอเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช. ตั้งอนุไต่สวนในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างและตั้งอนุไต่สวนการตรวจรับงาน เพื่อเอาผิดกับ ข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ระดับซี 8 – ซี11 และเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ทหารที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นหัวหน้าส่วนราชการแต่ไม่ติดตาม หรือไม่ปกป้องงบประมาณไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว และเอาผิดบริษัทเอกชน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 “เท่ากับว่าเป็นการร่วมกันฉ้อโกงรัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โครงการดังกล่าวต้องการสร้างความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียน แต่ทุกวันยังต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ประจำอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ เพราะกล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ต้องการให้ป.ป.ช. อายัดทรัพย์สินของทั้ง 4 บริษัทและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีการถ่ายโอนเงินออกนอกประเทศ และนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ควรโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว.