นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวภายภายหลังการประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมโรงแรม สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการท่องที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาระบาด ว่า ได้เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาอนุมัติ 2 มาตรการ คือ การลดผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ด้วยการจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยผู้ประกอบการ พร้อมเสนอครม.ขยายระยะเวลาเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมวีโอเอจากเดิมสิ้นสุด 30 เมษายนเป็นวันที่ 31 ธันวาคมนี้ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันสายการบิน และลดค่าลานจอดและค่าบริการขึ้นลงอากาศยาน ให้กับเที่ยวบินที่เป็นตลาดทดแทนจีน และการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง ในการประชุมครม.วันที่ 31 มกราคมนี้ สำหรับมาตรการเร่งด่วนในระยะสั้น แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เดือนกุมภาพันธ์ -เดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น และเดือนพฤษภาคม -กันยายน ที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ด้วยการขยายตลาดในอาเซียน อาเซียน ยุโรป อินเดีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก เข้ามาทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะหายไปประมาณ 2 ล้านคน ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อดึงคนไทยที่เที่ยวนอกให้มาเที่ยวไทย เน้นทางการเดินทางระยะใกล้ไม่เกิน 300 กิโลเมตร การท่องเที่ยวภายในภูมิภาค รวมถึงปลดล็อคกลุ่มประชุมและสัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลและแสดงสินค้า หรือไมซ์ เน้นเรื่องความถี่ และวันพักที่เพิ่มขึ้น ไม่เน้นค่าใช้จ่าย โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ส่วน รายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้ยังเป็นเป้าเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 3.16 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศจำนวน 40.78 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 2.5% คิดเป็นรายได้ 2.03 ล้านล้านบาท หรือโต 5% ขณะที่ในประเทศจำนวนนักท่องเที่ยว 170 ล้านคนต่อครั้งหรือเติบโต 3% คิดเป็นรายได้ 1.13 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ กล่าวยืนยัน ว่า เมืองไทยไม่เป็นเป็นพื้นที่แพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนาจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก โดยก่อนหน้านี้มีผู้ที่ติดเชื้อ8 คนนั้น ในจำนวนนี้มี 5 คน ที่ได้เดินทางกลับไปเมืองจีนแล้วเหลืออีก 3 คนอยู่ระหว่างติดตามอาการเท่านั้น ด้วยระบบสาธารณาสุขของไทยมีความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนและอันดับ 6 ของโลก จากประสบการณ์การป้องกันการเกิดโรคซาร์สและเมอร์สที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเข้าควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี