จากสถานการณ์โรงแรมตั้งแต่ต้นปี 2563 ในส่วนของผลประกอบการต่างจังหวัดอ่อนตัวลงประมาณ 4-5% ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงทรงตัว โดยมีจำนวนห้องพักรวมกว่า 50,000 ห้อง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 15,000 ห้อง ด้วยปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัว เนื่องจากประเทศจีนใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจีนส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของตนเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดโรคสถานการณ์ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรนา ที่มีการแพร่ระบาด แม้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในภาคส่วนของธุรกิจโรงแรม แต่ด้วยมีแผนตั้งรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวมาโดยตลอด จึงน่าจะทำให้การท่องเที่ยวไทยปี 2563 ยังเติบโตได้ และยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน ตั้งทีมวิเคราะห์สถานการณ์ โดย นาย แจสเปอร์ ปาล์มควิส ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่ เอสทีอาร์ (STR) นักวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมโรงแรม กล่าวว่า เมื่อการท่องเที่ยวไทยหันไปเน้นตลาดญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีเพิ่มขึ้น จึงน่าจะทำให้การท่องเที่ยวไทยปี 2563 นี้เติบโตประมาณ 2.2.% ไปจนถึงปีหน้า และยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน อีกทั้งถ้ามีการมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว เจาะกลุ่มการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ก็น่าจะช่วยให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในเชิงบวกและยั่งยืน ด้าน นาย วิลเลี่ยม ไฮเน็ค ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบันไมเนอร์ กรุ๊ปมีการทำธุรกิจครอบคลุม 54 ประเทศ ใน 5 ทวีป มีโรงแรม และรีสอร์ทรวม 546 แห่ง ร้านอาหาร 2,200 สาขา ใน 27 ประเทศ และร้านสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ 429 แห่ง เพราะฉะนั้นกลยุทธ์การตลาดจึงไม่ได้มุ่งเจาะกลุ่มตลาดจีนแต่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากในกลุ่มประเทศอื่นๆ อย่างโรงแรมที่อยู่ในแถบประเทศตะวันออกกลาง หรือรัสเซีย ทางไมเนอร์ กรุ๊ปก็จะมีกลยุทธ์รองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเข้มงวด และรัดกุม วิลเลี่ยม ไฮเน็ค "ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งมาสร้างแรงกดดันให้กับการทำงานโดยรวม เนื่องจากมีโรงแรมที่อยู่ในเครือกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในวันนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถตั้งรับได้ แม้ว่าคนทั่วไปอาจจะรู้สึกตระหนก แต่ในมุมของผู้ประกอบการยังตั้งรับได้ ทั้งในส่วนที่เป็นเครือข่ายรอบโลก โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ในประเทศจีนเวลานี้ในส่วนของห้องพักยังเปิดให้บริการ แต่ด้านร้านอาหารได้ปิดบริการชั่วคราว ซึ่งถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็จะเปิดให้บริการเช่นเดิม ทั้งนี้ได้มีการตั้งทีมประเมินสถานการณ์ และวิเคราะห์วันต่อวัน" นาย วิลเลี่ยม กล่าว ติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ด้าน นาย ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ดีวาน่า กรุ๊ป กล่าวว่า จากสถานการณ์ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรนา ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลให้โรงแรมตามชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต และอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ถูกยกเลิกจากนักท่องเที่ยวบ้าง แต่เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวของโรงแรมในเครือช่วงไฮซีซั่น จะมีความหลากหลาย รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดเอฟไอที หรือท่องเที่ยวด้วยตัวเองลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งจากเหตุการณ์เรือล่ม ปัจจัยทางเศรษฐกิจจีน และเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับโรคระบาดไม่ส่งผลกระทบมากนัก "ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมในตัวเมืองภูเก็ตที่รับตลาดกรุ๊ปจีนเป็นหลัก โดยยอดจองกรุ๊ปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์มีการยกเลิกไปเกือบทั้งหมด และเหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะกินระยะยาวไปจนถึงเดือนเมษายน ทั้งนี้ต้องรอติดตามดูสถานการณ์อีกครั้งอย่างใกล้ชิด ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ โดยรวมหรือไม่ เพราะในที่สุดถ้าหากการเดินทางด้วยสายการบินมีความเสี่ยงนักท่องเที่ยวก็อาจจะไม่กล้าเดินทาง" นาย ศึกษิต กล่าว  ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ขณะที่ในส่วนของการเตรียมรับมือกับปัญหาดังกล่าว ทางโรงแรมได้แนะนำให้พนักงานป้องกันตัวเอง ด้วยการใส่หน้ากากขณะทำงานได้ตามความเหมาะสม และมีการติดตามแขกที่มีอาการไข้สูงนำส่งโรงพยาบาลให้ได้รับการตรวจยืนยัน มีการประชาสัมพันธ์ เรื่องความสะอาดปลอดภัย ล้างมือให้ถูกวิธี รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะช่วย ทั้ง การปล่อยฟรีวีซ่า ให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย รวมถึงต่อ free VOA ไปจนถึงปลายปี ก็น่าจะช่วยให้การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น หลังจากเดือน พฤษภาคมเป็นต้นไป ส่วน นางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีการจองห้องพักเข้ามาจากนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 80% คงน่าจะหายไป และเหลือจำนวนนักท่องเที่ยวจริงๆ ประมาณ 30% เท่านั้น ปรับแผนกลยุทธ์ตั้งรับปัญหา พร้อมกันนี้ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรนา ที่มีการแพร่ระบาดในขณะนี้ ต้องยอมรับว่ากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างแน่นอน เนื่องจากทางการจีนได้ปิดการคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างเมืองอู่ฮั่น และการเดินทางเข้า - ออกประเทศ เพราะฉะนั้นถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นคงต้องใช้ระยะเวลานานในการควบคุมโรคระบาดนี้ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยจึงต้องปรับแผนกลยุทธ์กันใหม่รับปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งทาง สวนนงนุชพัทยา ได้เตรียมแผนรับสถานการณ์ ด้วยการเปิดโอกาสให้คนไทยเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยาฟรี โดยวาระแรก ตั้งแต่วันที่ 1-28 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นเดือนเทศกาลแห่งความรัก สวนนงนุชพัทยา ให้คนที่มีบัตรประชาชนในเขตจังหวัดชลบุรี เข้าเที่ยวชมฟรีอีกครั้ง ทั้งเดือน เพื่อชมสวนลอยฟ้าที่ยิ่งใหญ่ และสวยที่สุดในโลก พร้อมทั้งสักการะพระพุทธปฎิมากรศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสยาม จำนวน 9 องค์ คือพระแก้วมรกต พระพุทธชินราช พระพุทธมหาสุวรรณศกยมุนี พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) หลวงพ่อพระใส หลวงพ่อโสธร พลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไรขิง อีกทั้งพระประจำวัน ที่ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก เสริมความศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา รวมทั้งถือโอกาสท่องเที่ยวในสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดระยอง ก็น่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับธุรกิจท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง