เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวถึงสถานการณ์ก่อเหตุภาคใต้หลายจุดเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมาว่า เป็นการก่อเหตุเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ซึ่งผู้ที่ไม่เข้าใจและพยายามดำเนินการลักษณะนี้อยู่ก็ยังมี รวมถึงยังมีอุดมการณ์แบบเดิม และเป็นไปได้ว่าคนที่จ้องจะก่อเหตุพยายามสร้างสถานการณ์ขึ้นมาในจังหวะที่มีช่องว่าง แต่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นๆ หรือไม่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบก่อน และตนยังไม่ขอฟันธงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้าได้รายงานในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่าขอเวลาวิเคราะห์สถานการณ์ก่อน โดยมี 2-3 สาเหตุ แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ พื้นที่ที่เกิดเหตุกระจายออกไปและไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ รวมถึงไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด และเรื่องเหล่านี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้วางกำลังไว้ เมื่อถามว่า ทางการข่าวได้แจ้งเตือนรัฐล่วงหน้าหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า มีการแจ้งเตือนมาเป็นระยะๆ ซึ่งเราได้พยายามและติดตามข่าวอยู่เสมอ จึงขออย่าให้มองเป็นเรื่องใหญ่อะไร ทั้งนี้ตนไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ความสำคัญ ตนให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องของความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งเรามีโครงการต่างๆ ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ดี ไม่ประมาทและไม่ได้ท้าทาย แต่ถือเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูแล และประชาชนในพื้นที่ก็ต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม งานของผู้แทนพิเศษฯที่ตนเป็นหัวหน้าเราพยายามที่จะขับเคลื่อนที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในพื้นที่ ทำให้ชายแดนใต้มีความเจริญและเหตุการณ์ก็จะลดลง