ตามที่สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง หัวหน้า คสช.ฉบับที่19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรงศึกษาธิการ (ศธ.) ในเรื่องที่เกี่ยวกับการให้ ผอ.สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)จังหวัด และผอ.สำนักงานการศึกษาเอกชน(สช.)จังหวัด มีสิทธิสมัครเป็นศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)ได้ เพราะบทบาทหน้าที่ของ ศธจ. คือ บริหารจัดการบริหารจัดการด้านการศึกษาและบุคลากรในสถานศึกษา ในระดับประถมและมัธยมศึกษา จึงควรมีผู้นำการศึกษาที่ความรู้ความเข้าใจเรื่องหลักสูตร ปรัชญาการศึกษา การวัดและประเมินผลผู้เรียนระดับประถมและมัธยมศึกษา โดยผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวได้แก่ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)หรือ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เท่านั้น   ล่าสุดวันที่ 7 เม.ย.60 ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จ.ปทุมธานี ซึ่งมีการประชุมติดตามผลการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ของผู้บริหารสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม.ทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรณีการคัดค้านจาก ส.บ.ม.ท.ดังกล่าวด้วย ซึ่งนางนลินี ศรีสารคาม จันทร์ตรี ผอ.กศน.จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย ผอ.กศน.จังหวัดต่าง ๆ ได้ร่วมกันแถลงผลการหารือ "...ชาว กศน.ยินดี ที่จะทำตามคำสั่ง คสช. ในการเป็นส่วนหนึ่ง ของการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา..." ------------------ โดย นางนลินี เป็นผู้แทนกล่าวว่า ปัจจุบัน กศน.มีบทบาทในการขับเคลื่อนการศึกษาในระดับพื้นที่ โดยดูแลคนที่ขาดโอกาส ด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมถึงการศึกษาตามอัธยาศัย โดยผ่านห้องสมุดประชาชนประจำอำเภอ ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี และสื่อต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยมี กศน. ตำบลเป็นฐานและกลไกในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งโดยภาพรวมปัจจุบันมีประชาชนที่เข้ารับบริการจาก กศน.ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคน สำหรับไตรมาสที่ 3-4 กศน.ได้กำหนดวิสัยทัศน์ ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาว่า กศน.จะร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาของประชาชนทุกช่วงวัย และได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา เพื่อร่วมขับเคลื่อนการศึกษาไทยไปสู่ การศึกษา 4.0 โดย กศน.จังหวัดจะรับนโยบายและนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติในพื้นที่ และประสานความร่วมมือกับเครือข่ายในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรท้องถิ่นในการบูรณาการ เพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาสำหรับท้องถิ่นและชุมชน ซึ่ง กศน. ร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญ ในการร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคไปสู่ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม "ชาว กศน.ยินดีที่จะทำตามคำสั่ง คสช.ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา โดยเวลานี้บ้านเมืองต้องการความสามัคคี และ กศน.ก็ไม่ได้ต้องการขัดแย้งกับใคร ยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชน ยืนยันว่าจะทำงานเพื่องานการศึกษาตลอดชีวิตของประชาชน ชาว กศน.มีศักยภาพในการประสานงานกับทุกภาคส่วน และพร้อมเข้าร่วมปฏิรูปการศึกษา ส่วนจะได้รับการพิจารณาหรือไม่นั้น ต้องแล้วแต่คณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค หรือ คปภ. ซึ่งคณะกรรมการต้องพิจารณาเลิกผู้ที่เหมาะสมที่สุด" นางนลินี กล่าว "...การสื่อสารของผม ที่ให้สัมภาษณ์สื่อไปคงไม่ชัดเจน ส่งผลให้มีถ้อยคำออกมาแล้ว ทำให้พี่น้องชาว กศน.ไม่สบายใจ รู้สึกได้ว่าผมดูหมิ่นดูแคลน..." ------------------ ด้านนายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกส.บ.ม.ท.ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กซ์ส่วนตัว ซึ่งเป็นการขอโทษชาว กศน.ต่อแถลงการณ์ของ ส.บ.ม.ท.โดยระบุว่า "...เรียนพี่น้องชาว กศน.ที่เคารพ ตามที่ผมได้ให้สัมภาษณ์และมีข้อความพาดพิงพี่น้องชาว กศน. กรณี ศธ.เปิดทางให้ผู้บริหาร กศน./ผู้บริหาร สช./ฯลฯ สมัครเป็น ศึกษาธิการจังหวัด และมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาในระบบ (โรงเรียนประถมศึกษา และโรงเรียนมัธยมศึกษา ในแต่ละจังหวัด) ทั้งด้านการวางแผนการศึกษา การบริหารงานบุคคล โดยผมได้พาดพิงทำนองว่า การให้ผู้บริหาร กศน ไปบริหารและดูแลการจัดการศึกษา โรงเรียนประถมฯและโรงเรียนมัธยมฯ เหมือนนำคนตาบอดมาทำงานเพราะไม่มีความรู้ด้านการประถมศึกษาและการมัธยมศึกษา นั้นมีเจตนาสื่อสารว่าการที่ ศธ.จะให้บุคคลากรใด ไปบริหารหน่วยงานใดนั้น ก็ควรจะพิจารณาคัดเลือกจากผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านนั้นๆ ไปเป็นผู้บริหาร เช่นถ้า ศธ.ให้ ผอ.สพม หรือ ผอ สพป.ไปเป็นผู้บริหารดูแลการจัดการศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน หรือไปเป็นผู้บริหารดูแลการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาจังหวัด ก็จะมีปัญหาเพราะไม่มีความรู้ความสามารถประสบการณ์ด้านนั้นๆ เหมือนนำคนตาบอดไปทำงาน และการที่ ศธ.ให้ผู้บริหาร กศน/ผู้บริหาร สช .ไปดูแลจัดการศึกษาด้านการประถมศึกษา/มัธยมศึกษา ก็เช่นเดียวกัน การสื่อสารของผมที่ให้สัมภาษณ์สื่อไปคงไม่ชัดเจน ส่งผลให้มีถ้อยคำออกมาแล้วทำให้พี่น้องชาว กศน.ไม่สบายใจรู้สึกได้ว่าผมดูหมิ่นดูแคลน ผมจึงขอ "ขอโทษ" พี่น้องชาว กศน.ทุกท่านมา ณ โอกาส นี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะให้มีข้อความเช่นนั้นปรากฎขึ้นเลย ผมไม่โทษใครทั้งสิ้น แต่คงเป็นความบกพร่องในการสื่อสารของผมเอง และให้สัญญาว่าผมจะระมัดระวังการสื่อสารของผมมิให้เป็นเช่นนี้อีก..." ลงชื่อ นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย --------------------