“ช่างสิบหมู่”ปั้นแท่นฐานสัตว์มงคลประจำทิศทั้ง4แล้วเปรียบเสมือนจำลองเขาหัวมอป่าหิมพานต์ -พร้อมขึ้นรูปดินแท่นฐาน4องค์มหาเทพ"พระนารายณ์-พระอินทร์-พระศิวะ-พระพรหม"ปั้นรูปต้นแบบเทวดายืนเสร็จแล้ว
ความคืบหน้าจัดสร้างประติมากรรมประดับ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 60 ที่โรงหล่อประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา จ.นครปฐม นายประสพสุข รัตน์ใหม่ หัวหน้ากลุ่มประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า การจัดสร้างประติมากรรมคืบหน้าไปมาก โดยขณะนี้ได้ปั้นขึ้นรูปต้นแบบดินของเทวดายืนเสร็จแล้ว100% อยู่ระหว่างการทำเป็นแม่พิมพ์ทุบ หล่อปูนปลาสเตอร์ และนำมาปรับตกแต่งรายละเอียด ลวดลายเครื่องประดับและฉลองพระองค์อีกครั้ง ก่อนจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน รวมถึงราชสีห์ ช้าง ได้ปั้นขึ้นรูปดินเสร็จแล้ว ทีมช่างแม่พิมพ์กำลังจะทำการหล่อพิมยางซิลิโคนตามลำดับ นอกจากนี้ในส่วนของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 นั้น ท้าววิรุฬหกได้ปั้นขึ้นรูปดินเรียบร้อยแล้ว กำลังประดับตกแต่งลวดลายเครื่องประดับ คาดว่าจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคนได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนท้าวธตรฐ ท้าวเวสุวรรณ กำลังเก็บรายละเอียดและจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน ขณะที่ท้าววิรูปักษ์ กำลังตกแต่งเครื่องประดับ รวมถึงพระอินทร์ พระศิวะ และครุฑ กำลังเร่งดำเนินการกำลังตกแต่งรายละเอียดเกี่ยวกับฉลองพระองค์อยู่ เมื่อเรียบร้อยจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน และส่งไปหล่อไฟเบอร์กลาสที่โรงหล่อท้องสนามหลวงต่อไป
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทีมช่างกำลังดำเนินการปั้นขึ้นรูปดินในส่วนแท่นฐานของสัตว์มงคลประจำทิศ ทั้ง 4 ได้แก่ ช้าง สัตว์ประจำทิศเหนือ วัวสัตว์ประจำทิศใต้ สิงห์สัตว์ประจำทิศตะวันออก และม้าสัตว์ประจำทิศตะวันตก โดยในแต่ละฐานจะมีขนาดความสูง 75 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมรับกับขนาดของพระเมรุมาศ ซึ่งฐานของสัตว์ในแต่ละทิศจะมีหัวสัตว์ประจำทิศยื่นออกมาจากตัวฐาน และมีลักษณะพ่นน้ำออกจากปากของสัตว์ลงสู่สระอโนดาตด้านล่าง ซึ่งเปรียบเสมือนการจำลองเขาหัวมอจากป่าหิมพานต์ ทั้งนี้ทางทีมช่างจะทำการปั้นขึ้นรูปดินหัวสัตว์แต่ละทิศเพื่อเป็นต้นแบบ สำหรับจัดวางตามตำแหน่งที่กำหนด
"เบื้องต้นจะปั้นหัวสัตว์มงคลประจำทิศ ฐานละ 3 หัว แต่อาจจะหารือกับทีมภูมิสถาปัตยกรรมอีกครั้งว่าจะปรับเพิ่มจำนวนหรือไม่ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภูมิทัศน์และสวยงามที่สุด นอกจากนี้ทีมประติมากรรมจะดำเนินการปั้นขึ้นรูปดินแท่นฐานของมหาเทพทั้ง 4 ได้แก่ พระนารายณ์ พระอินทร์ พระศิวะ และพระพรหม ซึ่งแต่ละฐานจะมีความต่างกันตามลักษณะของมหาเทพแต่ละองค์" นายประสพสุข กล่าว
ภาพ...ช่างกลุ่มประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ดำเนินการปั้นต้นแบบรูปหัวช้าง ม้าและวัวบนแท่นฐานสัตว์มงคลประจำทิศ มีลักษณะพ่นน้ำออกจากปากลงสู่สระอโนดาต เปรียบเสมือนจำลองเขาหัวมอจากป่าหิมพานต์รอบพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ความคืบหน้าจัดสร้างประติมากรรมประดับ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 60 ที่โรงหล่อประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา จ.นครปฐม นายประสพสุข รัตน์ใหม่ หัวหน้ากลุ่มประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า การจัดสร้างประติมากรรมคืบหน้าไปมาก โดยขณะนี้ได้ปั้นขึ้นรูปต้นแบบดินของเทวดายืนเสร็จแล้ว100% อยู่ระหว่างการทำเป็นแม่พิมพ์ทุบ หล่อปูนปลาสเตอร์ และนำมาปรับตกแต่งรายละเอียด ลวดลายเครื่องประดับและฉลองพระองค์อีกครั้ง ก่อนจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน รวมถึงราชสีห์ ช้าง ได้ปั้นขึ้นรูปดินเสร็จแล้ว ทีมช่างแม่พิมพ์กำลังจะทำการหล่อพิมยางซิลิโคนตามลำดับ นอกจากนี้ในส่วนของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 นั้น ท้าววิรุฬหกได้ปั้นขึ้นรูปดินเรียบร้อยแล้ว กำลังประดับตกแต่งลวดลายเครื่องประดับ คาดว่าจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคนได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนท้าวธตรฐ ท้าวเวสุวรรณ กำลังเก็บรายละเอียดและจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน ขณะที่ท้าววิรูปักษ์ กำลังตกแต่งเครื่องประดับ รวมถึงพระอินทร์ พระศิวะ และครุฑ กำลังเร่งดำเนินการกำลังตกแต่งรายละเอียดเกี่ยวกับฉลองพระองค์อยู่ เมื่อเรียบร้อยจะทำการหล่อพิมพ์ยางซิลิโคน และส่งไปหล่อไฟเบอร์กลาสที่โรงหล่อท้องสนามหลวงต่อไป
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทีมช่างกำลังดำเนินการปั้นขึ้นรูปดินในส่วนแท่นฐานของสัตว์มงคลประจำทิศ ทั้ง 4 ได้แก่ ช้าง สัตว์ประจำทิศเหนือ วัวสัตว์ประจำทิศใต้ สิงห์สัตว์ประจำทิศตะวันออก และม้าสัตว์ประจำทิศตะวันตก โดยในแต่ละฐานจะมีขนาดความสูง 75 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมรับกับขนาดของพระเมรุมาศ ซึ่งฐานของสัตว์ในแต่ละทิศจะมีหัวสัตว์ประจำทิศยื่นออกมาจากตัวฐาน และมีลักษณะพ่นน้ำออกจากปากของสัตว์ลงสู่สระอโนดาตด้านล่าง ซึ่งเปรียบเสมือนการจำลองเขาหัวมอจากป่าหิมพานต์ ทั้งนี้ทางทีมช่างจะทำการปั้นขึ้นรูปดินหัวสัตว์แต่ละทิศเพื่อเป็นต้นแบบ สำหรับจัดวางตามตำแหน่งที่กำหนด
"เบื้องต้นจะปั้นหัวสัตว์มงคลประจำทิศ ฐานละ 3 หัว แต่อาจจะหารือกับทีมภูมิสถาปัตยกรรมอีกครั้งว่าจะปรับเพิ่มจำนวนหรือไม่ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภูมิทัศน์และสวยงามที่สุด นอกจากนี้ทีมประติมากรรมจะดำเนินการปั้นขึ้นรูปดินแท่นฐานของมหาเทพทั้ง 4 ได้แก่ พระนารายณ์ พระอินทร์ พระศิวะ และพระพรหม ซึ่งแต่ละฐานจะมีความต่างกันตามลักษณะของมหาเทพแต่ละองค์" นายประสพสุข กล่าว
ภาพ...ช่างกลุ่มประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ดำเนินการปั้นต้นแบบรูปหัวช้าง ม้าและวัวบนแท่นฐานสัตว์มงคลประจำทิศ มีลักษณะพ่นน้ำออกจากปากลงสู่สระอโนดาต เปรียบเสมือนจำลองเขาหัวมอจากป่าหิมพานต์รอบพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช