19 เม.ย.60 - ภายหลังการประชุมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดี “ซินแสโชกุน” ทั้ง6ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.),กองบังคับการปราบปรามคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.),กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ,กองบัญชาการสอบสวนกลาง(บช.ก.)ตำรวจท่องเที่ยว และ ตำรวจกองปราบปราม นานกว่า1ชั่วโมง พล.ต.อ.กวี สุภานันท์ ที่ปรึกษา(สบ10)เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายในคดีนี้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจที่กองบังคับการปราบปรามแล้วกว่า400คน แต่เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ไม่ได้แจ้งความอีกกว่าหนึ่งพันคน “ในช่วงบ่ายวันนี้ผมจะประชุมคอนเฟอเร้นท์กับกองบัญชาการทั่วประเทศ เพื่อประสานให้อำนวยความสะดวกผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความกับท้องที่แล้ว ก่อนจะรวบรวมเรื่องส่งบันทึกการแจ้งความกลับมาที่ บก.ป.” พล.ต.อ.กวี กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.)ไปติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้ยึดทรัพย์ไปแล้ว10ล้านกว่าบาท แต่ยังไม่เพียงพอกับทรัพย์ของผู้เสียหาย ที่ประเมินได้ประมาณ40-50ล้านบาท นอกจากนี้ได้ประสานให้ทาง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มนี้ ว่า มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่นั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล พล.ต.อ.กวี เปิดเผยอีกว่า ส่วนการสอบปากคำ8ผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้(18เม.ย.)ทั้งหมดก็ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าเป็นเพียงการขายตรงเท่านั้น ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ขายตรง หรือไม่นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการซัดทอดไปถึงนายทุนชาวฮ่องกง พล.ต.อ.กวี กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกแม่ข่าย เข้ามาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยินดีที่จะนำทรัพย์สินมาคืน ทั้งนี้การสอบปากคำแม่ทีมให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งได้เล่าถึงพฤติกรรมแม่ข่ายบางกลุ่มว่า ได้มีการประกาศเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน7ตัวท็อป หรือ ทองคำ สุ่มแจกให้กับแม่ทีมที่ทำยอดได้ตามเป้า หากใครที่นำมาคืนให้กับผู้เสียหายทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการลงบันทึกไว้ตามขั้นตอน ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติมกลุ่มแม่ข่ายที่ไม่่ให้ความร่วมมืออีกหลายราย ส่วนกรณี นางมณฑญาณ์ แม่ของซินแสโชกุนที่อ้างว่าลูกสาวมีหุ้นส่วนกับบริษัทเช่าเหมาลำเครื่องบินจากฮ่องกง นั้น ทางพล.ต.อ.กวี บอกว่า ภายในสัปดาห์นี้จะสอบปากคำตัวแทนบริษัทเช่าเหมาลำที่มีการกล่าวอ้างถึง ทั้ง2บริษัทยักษ์ใหญ่ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ด้าน พล.ต.ต.ประเสริฐ เปิดเผยว่า ส่วนการเข้าตรวจค้น บริษัท ออลเลเชี่ยน จำกัด ย่านอโศก พบกระปุกอาหารเสริม ภายในบรรจุ2รุ่น รุ่นแรกเป็นกระปุกที่บรรจุเม็ดยาขนาดใหญ่สีน้ำตาล อีกรุ่นเป็นแคปซูลสีขาว ซึ่งได้ประสานให้ สคบ.ดำเนินการตรวจสอบว่าอาหารเสริมดังกล่าวนำเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ามีการนำเข้ามาจากประเทศแคนนาดาจริง ซึ่งทาง สคบ.และ อย.อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบว่าอาหารเสริมดังกล่าวนั้นถูกต้องหรือไม่