เมื่อเวลา 00.00 น.วันที่ 24 เม.ย. ร.ต.อ.ศรุต คำละออ รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีคนร้ายโยนวัตถุคล้ายระเบิด บริเวณถนนด้านหน้า สน.ห้วยขวาง ซอยประชาสงเคราะห์ 32 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และออกไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะ รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ที่เกิดเหตุอยู่ริมทางเท้าห่างจากด้านหน้า สน.ห้วยขวาง ประมาณ 10 เมตร พบเศษชิ้นส่วนคล้ายขวดพลาสติกของน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ (ยี่ห้อเป็ด) มีทั้งสีม่วงและสีส้ม แตกกระจัดกระจายทั่วพื้นถนน มีชิ้นส่วนขนาดเล็กใหญ่ปะปนกันไป เจ้าหน้าที่จึงนำกรวยยางมาปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทำการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ พ.ต.อ.อาคม เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานี พบว่า เมื่อเวลา 00.00 น. 49 วินาที พยภาพคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี จำนวน 3 คน ขับขี่ซ้อนท้าย รถ จยย. มาด้วยกัน 1 คัน คาดว่าเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ 125 หรือยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็ม-สแลซ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยคนขับสวมเสื้อลายพรางทหารสีเขียว ที่ปากคาบบุหรี่ที่จุดสูบไว้ โดยขับขี่มาจากถนนประชาสงเคราะห์ พอมาถึงภายในถนนประชาสงเคราะห์ 32 ผ่านหน้า สน.ห้วยขวาง จังหวะนั้นคนซ้อนท้ายได้โยนวัตถุบางอย่างลงไปที่ริมถนน คล้อยหลังประมาณ 4-5 วินาที ก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง และเกิดควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ก่อนกลุ่มคนร้ายจะขับขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าสี่แยกห้วยขวาง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมภาพวงจรปิดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้าย พ.ต.อ.อาคม เปิดเผยอีกว่า ในเบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะตั้งใจก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะช่วงเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่บริเวณด้านหน้าสถานี 2-3 นาย แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ประกอบกับกลุ่มคนร้ายที่ลงมือไม่มีการปิดบังใบหน้า รวมทั้งวัตถุคล้ายระเบิดที่กลุ่มคนร้ายใช้นั้น ไม่มีสะเก็ดระเบิดหรือวัตถุที่จะทำให้บาดเจ็บถึงแก่ชีวิต จึงสันนิษฐานได้ว่า กลุ่มคนร้ายลงมือเพื่อป่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดกวดขันปราบปรามเหตุอาชญากรรม ตรวจตราแหล่งมั่วสุมต่างๆของวัยรุ่น ที่จะเป็นบ่อเกิดเหตุอาชญากรรมอย่างหนัก จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้กลุ่มก่อเหตุไม่พอใจ ส่วนวัตถุที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น น่าจะเป็นระเบิดที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง แบบไม่มีความรู้ เอาแค่ให้เกิดเสียงดังเพื่อข่มขู่ป่วนเจ้าหน้าที่เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทั้งหมด ไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝง และสารระเบิด ว่าเป็นระเบิดชนิดใด เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป