อธิบดีกรมบังคับชี้คดี โชกุน เป็นความผิดอาญา เกี่ยวพนคดีแพ่ง ต้องยุดทรัพย์ และอายัด เพื่อขายทอดตลาด เบื่องต้นผู้เสียหาย 403 ราย มูลค่า 15 ล้านบาท วันที่ 24 เม.ย.60 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยความคืบหน้าคดี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัท เวลท์เอเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และพวก ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง ตามกฎหมาย ป วิ.อาญา หมวด 2 มาตรา 40 - 44/1 โดยกระบวนการยึดทรัพย์และบังคับคดีนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องอัยการให้ศาลพิจารณาก่อนมีคำพิพากษาเรื่องค่าสินไหมทดแทนและหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระได้ก็จะให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวมาตั้งเรื่องที่ กรมบังคับคดี ดำเนินการสืบทรัพย์ พร้อม อายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเพื่อนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดนำเงินมาใช้กับผู้เสียหายต่อไป สำหรับการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายนั้นจะต้องเฉลี่ยคืนให้ได้ทั้งหมดก่อน ซึ่งอาจจะไม่ครบตามจำนวนทั้งหมด และหากจำเลยยังไม่มีทรัพย์มาชดใช้ ทางกรมบังคับคดีก็จะดำเนินการฟ้องล้มละลาย โดยขณะนี้มีผู้เสียหายในคดี ประมาณ 403 คน มูลค่าความเสีบหายประมาณ 15 ล้าน แต่ทรัพย์ที่ยึดผู้ต้องมามาได้ขณะนี้มีเพียง 12 ล้านบาท อีกทั้ง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)ได้ประสาน นายสุวพันธุ์ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ กรมบังคับคดี เป็นหนึ่งในหน่วยงานร่วมกับ กรมพัฒนาธรกิจการค้า ดำเนินการดังกล่าวด้วย โดยวันที่ 28 เม.ย. นัดประชุมที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ล่าสุด กรมบังคับคดี ได้รับการประสานจาก พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา(สบ 10) คดีแชร์ยูฟัน ซึ่งศาลมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. และพร้อมจะดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม กรมบังคดีทำงานเชิงรุกพร้อมให้คำแนะนำผู้เสียหาย โดย กรมบังคับคดี เคยทำคดีเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ที่ผ่านมาในอดีต พบว่า ผู้เสียหาย ส่วนมากไม่รู้วิธีการจึงอยากให้คำแนะนำต่างๆ