"นายกฯ"ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ก.วิทย์ ชิมเมนูเจ๋งเพื่อสุขภาพ ข้าวหอมชลสิทธิ์เสิร์ฟคู่กุ้งกุลาดำโอเมก้าผัดพริกเกลือ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2560 โดยมีนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้าราชการกระทรวงวิทย์ฯ ให้การต้อนรับ โดยก่อนการประชุมนายกฯถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย พร้อมถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารกระทรวงฯ บริเวณลานน้ำพุ จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณโถง ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมครั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเจ้าภาพได้จัดเมนูอาหารเสิร์ฟนายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมประชุม โดยเมนูส่วนหนึ่งมาจากผลการวิจัยพัฒนาโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เริ่มจาก ข้าวหอมชลสิทธิ์ ที่พัฒนาสายพันธุ์จากการผสมระหว่างข้าวทนน้ำท่วม IR57514 และข้าวพันธุ์ดอกมะลิ 105 จนได้ข้าวที่มีผลผลิตสูงเมื่อนำมาหุงมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน เสิร์ฟคู่กับเมนูอาหารจานเด่น อาทิ กุ้งกุลาดำโอเมก้าผัดพริกเกลือกับผักรวมอบกึ่งสำเร็จรูป โดยกุ้งกุลาดำโอเมก้านั้น พัฒนาจากกุ้งกุลาดำซึ่งเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นของจ.ภูเก็ตและพังงา โดย สวทช.พัฒนาให้เป็นกุ้งกุลาดำโอเมก้าซึ่งจําเป็นต่อมนุษย์ทั้งในแง่ของการพัฒนาเซลล์ประสาทและสมอง รวมทั้งการ ป้องกันและควบคุมโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และเป็นสินค้าในระดับพรีเมี่ยมของคนรักสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีมะเขือเทศสมูทตี้ ที่ใช้มะเขือเทศพันธุ์ดี จากการวิจัยของ สวทช.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พัฒนาสายพันธุ์มะเขือเทศให้มีสาระสำคัญสูง จนนำมาผลิตเป็นสมูทตี้ 4 สี คือ แดง เหลือง ส้ม น้ำตาลม่วง ปลอดภัยต่อสุขภาพ รสชาติอร่อย รับประทานคู่กับ เบเกอรี่ที่ผลิตจากฟลาวแป้งมันสำปะหลัง ที่ได้รับการพัฒนากระบวนการผลิตจนได้ฟลาวแป้งไซยาไนต์ต่ำปลอดภัยต่อสุขภาพที่สำคัญลดการใช้แป้งสาลีในการทำเบเกอรีต่างๆ ด้วย ขณะเดียวกันก็ได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน อ.นาแห้ว จ.เลย คือ มะคาเดเมียอบเกลือ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดย สวทช. สำหรับนิทรรศการ ได้มีการนำเสนอผลงานต่างๆ ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่น่าสนใจคือ ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ ฟู้ดอินโนโพลิส โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ซึ่งมีบริษัทอาหารชั้นนำทั้งในประเทศ และประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมโครงการ และตั้งห้องปฏิบัติการในพื้นที่ฟู้ดอินโนโพลิส รวมทั้งได้โชว์ผลการพัฒนากรรมวิธีในการเลี้ยงถั่งเช่า ของบริษัทเซโก้ โดยใช้แสงซินโครตรอนพัฒนาชิ้นส่วนตัวควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และแสงสว่าง ที่ใช้ในระบบ ทำให้ได้ถั่งเช่า ที่มีคุณภาพสูง มีปริมาณสารอะดีโนซีนสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาด ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะช่วยพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในประเทศ และเป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร “Smart farmer” ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกด้วย โดยเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นของ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (สซ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของเมืองนวัตกรรมอาหาร นอกจากนี้ ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ของ บริษัทไทยโอซูก้า บริษัทในเครือ โอซูกะ ฟาร์มาซูติคอล แฟคตอรี่ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเข้าร่วมเครือข่ายเมืองนวัตกรรมอาหาร และมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ชนิดใหม่ ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้ว เมืองนวัตกรรมอาหารและหน่วยงานภาคี ยังได้ร่วมมือกับบริษัทสวีทแอนด์อินเว้นท์ จำกัด ในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางด้านกลิ่นอาหาร ที่ยังประสบปัญหาความขาดแคลนในประเทศไทย เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณภาพ และเพียงพอต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทย อีกทั้งยังมีแผนพัฒนากลิ่นอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศเพื่อลดการนำเข้า และเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบในประเทศไทย รวมถึงการสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอุตสาหกรรมด้านกลิ่นอาหารของไทย โดยจะนำตัวแทนผลไม้ไทย เช่น มะม่วงอกร่องทอง มะพร้าวน้ำหอมสามพราน ส้มเขียวหวานบางมด เป็นต้นแบบเพื่อสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและนำเสนอสู่ตลาดโลกต่อไป