เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (วิปสปท.) แถลงภายหลังการประชุมว่า สัปดาห์หน้าสปท.จะมีประชุม 2 วัน โดยในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ที่ประชุมสปท.จะพิจารณารายงานการปฏิรูปของคณะกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสื่อมวลชน จำนวน 2 เรื่อง 1.เรื่อง การปฏิรูปการสื่อสารมวลชน : ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... และร่างพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... 2.เรื่อง ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ขณะที่ การประชุม สปท.ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะพิจารณารายงานจำนวน 2 เรื่อง 1.รายงานการปฏิรูปของคณะกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจภาครัฐ : การถ่ายโอนภารกิจของเจ้าพนังงานพิทักษ์ทรัพย์ กับ 2.รายงานการปฏิรูปของคณะกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสังคม เรื่อง การส่งเสริมการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ เมื่อถามว่า เนื้อหาของร่างกฎหมายคุมสื่อยังมีความเข้มงวด แต่กลับนำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสปท.อีก นายคำนูณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาวิปสปท.ได้มีการพิจารณาแล้ว และมีมติให้นำกลับมาทบทวน ตามที่วิปสปท.ได้เสนอความเห็นต่อกมธ.สื่อฯ 3 -4 ประเด็น ก่อนที่จะเสนอกลับมายังวิปสปท.อีกครั้ง ซึ่งจากการหารือทางกมธ.สื่อฯยังคงยืนยันความเห็นเดิม ว่า กมธ.ได้มีการทบทวนแล้ว และยันยันในประเด็นที่ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกมธ.สื่อฯ กับ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธาน กมธ.สื่อฯ ได้ออกมาแถลงข่าวความคืบหน้าการพิจารณาเป็นระยะๆ ดังนั้น วิปสปท.จึงมีมติให้นำเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพื่อให้สมาชิกได้แสดงความเห็นอย่างหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่การตอบโต้ไปมาระหว่างตัวแทนองค์กรสื่อฯกับกมธ.สื่อ ส่วนจะมีโอกาสที่ร่างกฎหมายดังกล่าว จะถูกตีกลับมาทบทวนอีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมในวันที่ 1 พ.ค.นี้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร