เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 เมษายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหลอกลวงเพื่อนอาจารย์ และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยดังกล่าว ให้นำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ที่ตั้งขึ้น และอ้างว่าจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงทุน แต่กลับไม่มีการจ่ายเงินปันผลตามที่กล่าวอ้าง โดยสหกรณ์ลอตเตอรี่ที่ระบุว่าได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล นั้น ก็ไม่มีจริง เป็นเพียงการสร้างเรื่องขึ้นมา จนเกิดความเสียหายกว่า 443 ล้านบาท โดยมี พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เข้าร่วมประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมในคดีนี้อีก 1 ราย คือ น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร คนมั่น อายุ 32 ปี ภายหลังพบว่าเป็นผู้ที่ได้รับการโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ ซึ่งศาลอาญาได้ออกหมายจับ ที่ 1034/2560 ลงวันที่ 27 เมษายน 2560 ข้อหาโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือกระทำการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และกระทำผิดฐานฟอกเงินโดยมีการสมคบกัน ต่อมา พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป.พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.4 บก.ป.สามารถติดตามจับกุม น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร ไว้ได้ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.ซึ่งทาง พล.ต.ท.ฐิติราช พร้อมคณะ ได้สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง จากนั้น พ.ต.อ.ชาคริต เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและบรรยายพฤติการณ์ทางคดี ว่านับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา ได้อาศัยความเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด หลอกลวงสมาชิกสหกรณ์ฯ และผู้ถือหุ้น ให้มาร่วมลงทุนสหกรณ์ลอตเตอรี่ โดยมีสมาชิกสหกรณ์ฯ หลงเชื่อ นำเงินมาลงทุน ซึ่งได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.รวม 63 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 443 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ฐานฉ้อโกงประชาชน รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ น.ส.พชกร มีหลักฐานว่าตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2559 ได้มีการรับโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ หลายครั้ง มีมูลค่ารวมกว่า 62 ล้านบาท ในลักษณะของการรับโอนทรัพย์สินเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของ รศ.ดร.สวัสดิ์ เป็นความผิดฐานฟอกเงิน สอบสวน น.ส.พชกร ให้การปฏิเสธว่า เงินที่ รศ.ดร.สวัสดิ์ โอนมาให้นั้นเป็นเงินที่ใช้ในการเล่นการพนันบาคาร่าออนไลน์ ครั้งละประมาณ 1-2 แสนบาท นับตั้งแต่ปี 2553 แต่ไม่ได้โอนมาเล่นพนันทุกวัน บางครั้งก็หายไปนานกว่า 2 เดือน ส่วนเงินที่เล่นพนันไปทั้งหมดน่าจะอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สนิทสนมหรือเคยเดินทางหรือไปไหนมาไหนกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ โดยตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาประมาณ 10 ปี เคยพบกันแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ส่วนที่มีการติดต่อกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ เป็นเพราะได้รู้จักกันผ่าน น.ส.จิ๋ว เพื่อนของเพื่อนแฟนตนอีกที น.ส.พชกร ให้การอีกว่า ครั้งแรกที่รู้จักกันคือเมื่อครั้งที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตอนนั้นตนกับแฟนและเพื่อน ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนที่เพื่อนของเพื่อนจะแนะนำให้รู้จัก รศ.ดร.สวัสดิ์ ซึ่งมารับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าวอยู่ และได้นัดหมายกับหญิงสาวอายุประมาณ 25 ปี ซึ่งตนไม่ทราบสถานะของหญิงสาวคนดังกล่าวกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ว่าเป็นอะไรกัน สำหรับการเล่นการพนันที่ผ่านมา ตนจะทำหน้าที่เป็นแค่คนกลางที่โอนเงินเล่นพนันให้ แล้วได้ค่าตอบแทน 0.8% ของเงินที่แทงพนันเท่านั้น ยืนยันว่าได้โอนเงินไปหมดแล้ว น.ส.พชกร ให้การด้วยว่า ขณะนี้ไม่มีเงินเหลืออยู่ที่ตนแต่อย่างใด เวลานี้ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แค่ขายเสื้อผ้าผ่านทางออนไลน์ ส่วนเว็บไซต์แทงพนันดังกล่าวได้รับการแนะนำจากเพื่อนอีกทอดหนึ่ง ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ ก็จะเล่นพนันได้บ้าง เสียบ้าง สลับกันไป ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมจะขออำนาจศาล ออกหมายจับบุคคลที่รับโอนทรัพย์สินไปจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ หรือนำไปแปลงเป็นสินทรัพย์อื่นๆ โดยจะพิจารณาเรียกบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งมาสอบปากคำ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง ส่วนการติดตามจับกุมตัว รศ.ดร.สวัสดิ์ นั้น จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ทราบพื้นที่ซึ่งมีการหลบซ่อนและใกล้จะถึงตัวผู้ต้องหาแล้ว อย่างไรก็ดี ตนยังอยากให้ผู้ต้องหาออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีจะดีกว่า พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของการติดตามเงินจำนวนกว่า 443 ล้านบาท นั้น ขณะนี้สามารถตรวจสอบและติดตามพบเส้นทางการเงินในจำนวนกว่า 60 ล้านบาท ที่พบว่ามีการโอนให้กับ น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร ผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดีนี้ที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ทั้งนี้ จะมีการประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินจากการกระทำความผิด และช่วยติดตามเส้นทางการเงินที่มีการหลอกลวงไปจากผู้เสียหาย