เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบช.ภาค 1 ,พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี,พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.ปทุมธานีและชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นักศึกษาเสียชีวิตคาป้ายรถเมล์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 02.10 น. เหตุเกิดบริเวณป้ายรถประจำทาง ริมถนน-พหลโยธิน ปากซอยลำลูกกา 21 หมู่ 8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ทราบชื่อคือ 1.นายรัชศักดิ์ หรือเก่ง กุลมัย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 255/2560 ลงวันที่ 22 เมษายน 2560 และ 2.นายฤทธิเดช หรือเบริ์ด อักษรวิทย์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 258/2560 ลงวันที่ 22 เมษายน 2560 พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืน ลูกซองสั้น จำนวน 1 กระบอก 2.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ 3.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซูโมเอ็ก สีเขียว-ดำ หมายเลขทะเบียน 2 กส-6872 กทม. 4.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 6 กฆ- 414 กทม. ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ปล้นทรัพย์ โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุอันควร จากนั้นพ่อของผู้เสียชีวิต ได้มอบดอกไม้ขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหมั่นตรวจตราพื้นที่จุดเสี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบลูกชายของตนเองขึ้นอีก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บริเวณป้ายรถเมล์ โดยมีประชาชนให้ความสนใจร่วมดูการทำแผนฯ และมีญาติของผู้ตายได้มาร่วมดูการทำแผนและสาปแช่งด่าทอผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่านักศึกษาจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นายได้คอยดูแลความเรียบร้อย จึงไม่เกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ หลังเสร็จสิ้นการทำแผนจึงคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย นายรัชศักดิ์ หรือเก่ง กุลมัย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ได้ขับรถไปพร้อมกับเพื่อนรวม 3 คน ขับจยย. 2 คัน และได้ขับรถตระเวณหาเหยื่อ กระทั่งมาพบกับผู้ตาย ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงคนเดียว จะขับประกบและบอกให้จอด ส่วนเพื่อนก็ขับไปปาดหน้ารถเพื่อให้รถหยุด พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่เอาทรัพย์สิน แต่ผู้ตายไม่ยินยอม กลับพยายามต่อสู้ จนชกต่อยกัน ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถต่อสู้กับผู้ตายได้ และเห็นว่าผู้ตายเหมือนจะชักอาวุธออกมาต่อสู้ ตนเองคิดว่าผู้ตายมีอาวุธปืน ขณะนั้นตนเองจึงชักอาวุธปืนยิงใส่ที่กลางหน้าอกจนล้มลงและเสียชีวิต จังหวะนั้นตนเองและเพื่อนได้นำเอานาฬิกา, โทรศัพท์ และหมวกกันน๊อคของผู้ตายไปด้วย จากนั้นก็พากันแยกย้ายหลบหนี กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมนายเบริ์ด ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุอีกคน คือนายแมน ยังหลบหนีไปได้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบช.ภาค 1 กล่าวเปิดเผยว่า จากพฤติการณ์การก่อเหตุของผู้ก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นเหตุอุฉกรรจ์สะเทือนขวัญและกระทบต่อความสงบสุขของประชาชน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนเร่งติดตามสืบสวนคดีเพื่อให้ได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย กระทั่งตรวจสอบพบกล้องวงจนปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี จึงพบรูปพรรณของคนร้ายทั้งสามคน จึงสามารถติดตามจับกุมตัวนายเก่งฯ และนายเบริ์ด มาได้ ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือนายอรรถวิท หรือแมน โพธิ์ศรี อายุ 20 ปี ยังคงหลบหนีไปได้ ซึ่งจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนของกลางซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ผู้ต้องหาทราบข่าวว่านำไปทิ้งในคลองย่านรังสิต และนอกจากนี้นายรัชศักดิ์ฯ หรือเก่ง ได้ให้การรับสารภาพอีกว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้ใช้อาวุธปืนและมีด ชิงทรัพย์ผู้เสียหายบริเวณหน้าตลาดสายชล หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง และวันที่ 13 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 03.10 น. ได้ใช้อาวุธปืน ปล้นทรัพย์ ผู้เสียหายบริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ คลองสาม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ทรัพย์สินไปเป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ,หมวกกันน๊อค,และเงินสด โดยนายเก่งฯ ได้ร่วมกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15-17 ปี จำนวน 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเยาวชนทั้งสองราย ส่งดำเนินคดีข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบช.ภาค 1 กล่าวต่ออีกว่า หลังจากสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาแก๊งค์นี้ได้ ซึ่งได้ตระเวณก่อเหตุชิงทรัพย์ ,ปล้นทรัพย์ ในพื้นที่ เขต สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ , สภ.ธัญบุรี และ สภ.คูคต ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และได้รับบาดเจ็บ หลายราย จากนั้นได้สั่งการเพื่อเพิ่มมาตรการในการดูแลความเรียบร้อยในแต่ละพื้นที่จุดเสี่ยง ให้หมั่นตรวจเข้ม ตระเวณตรวจสอบความเรียบร้อย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่