“บิ๊กป๊อก”วอนสื่อใจเย็นรอผลสอบ “ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน”อย่าเร่ง “รองปลัดฯ”เพิ่งลงพื้นที่ ลั่นหาข้อมูลก่อนสาวถึงผวจ.คนก่อน แจงปม “ศรีวราห์” มีข้อมูลชัด คณะทำงานคงติดตามข้อมูลอยู่ ขอสื่ออย่าฟังความข้างเดียวเร่งย้ายพ่อเมืองสามหมอก ขอสอบสวนให้ชัดป้องกันความผิดพลาด นอยถามปมกำชับขรก.หลังเกิดเรื่อง มองลิเกไปหน่อย เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 28 เม.ย.60 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.)แม่ฮ่องสอนที่ถูกกล่าวหาพัวพันกับขบวนการค้าประเวณีเยาวชนว่า ขอเวลาให้นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตรวจสอบข้อมูลก่อน ซึ่งได้กำชับให้ทำการสอบสวนโดยเร็ว แต่นายประยูรเพิ่งลงพื้นที่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หากจะให้ได้ผลทันทีคงไม่ได้ เพราะต้องหาข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา คนในพื้นที่ ต้องให้เวลากันบ้าง แต่คณะทำงานก็พยามเร่งสอบสวนกันอยู่ซึ่งจะไม่เกิน 1 เดือนตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อถามว่าจะมีการสอบสวนไปยังอดีตผวจ.แม่ฮ่องสอนที่ขณะนี้ย้ายไปเป็นผวจ.อุตรดิตถ์หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนต้องสอบถามข้อมูลว่าโยงไปถึงใครบ้าง ซึ่งต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาก่อน แต่ต้องนำข้อมูลมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ถึงจะสอบสวนคนอื่นๆ ต่อ ขอให้สื่อรอข้อมูลสักนิด ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ระบุชัดเจนว่ามีหลักฐานผวจ.แม่ฮ่องสอนมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ได้ประสานขอข้อมูลมายังกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานฯ คงไปติดตามข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งกระทรวงจะดูในเรื่องของวินัย ส่วนเรื่องคดีอาญาต้องแยกกันดำเนินการ เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตทำไมไม่ให้ผวจ.แม่ฮ่องสอน ย้ายออกจากพื้นที่ก่อนเพื่อความสบายใจในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สื่อต้องการให้ผวจ.ออกไปตอนนี้เลยหรือไม่ ขอให้คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงมาก่อน ซึ่งสิ่งที่เกิดในขณะนี้เนื่องมาจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่อยู่ในการสอบสวนที่ให้ข่าวเช่นนั้น แม้จะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงและไม่ใช่แม่โดยตรง แต่เป็นผู้ที่อยู่ในขบวนการ ถ้าฟังข้อมูลเพียงแค่นั้นแล้วตัดสินก็จะเร็วเกินไป เราส่งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงลงไปแล้ว สื่อควรจะรอนิดนึงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด เมื่อสักครู่สื่อก็ถามเองถ้าไม่ใช่ผวจ.คนนี้ แต่เป็นคนเก่า แล้วถ้าตัดสินผิดคนไปจะถูกต้องหรือไม่ ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงกันก่อน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงมาตรการป้องกันไม่ให้ข้าราชการเข้าไปเกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์ว่า คำถามพวกนี้ออกจะเป็นดราม่าลิเกไปหน่อย ถ้าเกิดเหตุขึ้นแล้วจะต้องมาสั่งกำชับจะออกเป็นลิเกไป เรื่องที่เกิดขึ้นมี 2 เรื่อง คือเรื่องการปฏิบัติงานตามหน้าที่และการปฏิบัติตัว ทางรัฐบาลได้กำชับทุกภาคส่วนอยู่แล้วว่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เราพยายามหยุดกระบวนการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ต้องทำให้ไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรือไปอยู่ในกระบวนการก็จะมีความผิดมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ความผิดในกรณีค้ามนุษย์เป็นคดีอาญา มีกฎหมายในการดำเนินการ ขณะนี้แยกเป็น 2 ส่วน โดยทางกระทรวงมหาดไทยสืบหาข้อเท็จจริงทางวินัยเพื่อลงโทษ ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ก็มีความผิดทางวินัย แต่ต้องมีหลักฐานว่ามีความผิดสถานใด ส่วนทางกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการให้ได้