“ปณิธาน”เผยรัฐบาลรับทราบความกังวลสื่อต่อร่าง ก.ม.ตีทะเบียนฯ เชื่อคัดค้านไม่บานปลาย แนะเปิดอกคุยกัน เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 เม.ย.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดค้านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อ พ.ศ ว่า อาจจะต้องเปิดอกคุยกันเรื่องความกังวล ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลรับทราบ และมีการพูดคุยถึงความกังวลของสื่อฯในการที่จะทำงานต่อไป และมีการแลกเปลี่ยนกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดี ทำให้สื่อฯทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ดีขึ้นในช่วงโรดแมปสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนรายงานให้พล.อ.ประวิตรรับทราบแล้ว ขณะเดียวกันก็เห็นความตั้งใจจริงของสื่อ หลายกลุ่มต้องการให้เกิดระเบียบ เกิดการพัฒนาเรื่องอาชีพ แต่ก็ไม่ง่ายในเรื่องเกี่ยวกับวิชาชีพและมาตรฐานต่างๆ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันทุกวงการ ตนคิดว่ารัฐบาลน่าจะมีช่องทางในการการรับฟังสื่อและสะท้อนความกังวลในส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนความมั่นคง การทำงานร่วมกับสื่อเป็นสิ่งสำคัญมาก หากทำงานด้วยกันได้ดีจะทำให้คนเข้าใจเรื่องความมั่นคงที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นอาจจะต้องหาเวลาแลกเปลี่ยนกันในระดับผู้นำ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าในยุคต่อไปจะใช้กฎหมายนี้ครอบงำสื่อ นายปณิธาน กล่าวว่า ถ้าทราบตั้งแต่ต้น กังวลตั้งแต่ต้น ตนว่าปัญหาก็คลายตัวลงไปเยอะ ว่าการเข้าไปแทรกแซง ตั้งประเด็นไว้ชัดเจน ก็จะมีความพยายามในการป้องกัน ขณะเดียวกันต้องมีเรื่องการทำมาตรฐานใหม่ขึ้นมา และให้มีสื่อมืออาชีพเข้ามาดูแลเรื่องนี้ จะต้องมีโครงสร้างใหม่ขึ้นมา จึงต้องถ่วงน้ำหนักกันให้ดี แต่ประเด็นที่ว่าจะให้สื่อเป็นอิสระ เป็นมืออาชีพและไม่ต้องการให้ใครแทรกแซง ตนคิดว่าเห็นตรงกันหมด เพียงแต่ว่าจะทำได้ขนาดไหน คงต้องดูกลไกความเหมาะสม คงต้องปรับ แต่เชื่อว่าน่าจะหาทางออกที่ลงตัวได้ทั้งสองอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการและเป็นผลดีกับรัฐบาลด้วย เรื่องเหล่านี้เป็นการสื่อสารกับประชาชนโดยเฉพาะ ในช่วงเตรียมการเลือกตั้งและการสร้างความปรองดอง หากทำงานกับสื่อได้ดีก็จะราบรื่นกว่านี้ เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะบานปลายได้ นายปณิธาน กล่าวว่า ไม่คิดอย่างนั้นแต่กลัวว่าสื่อจะทำงานไม่ได้มากกว่า เพราะมีความเป็นกังวล เมื่อถามว่า จะกลายเป็นตราบาปของรัฐบาลนี้หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า นั่นเป็นการมองอีกด้านหนึ่ง แต่อีกด้านมองว่ามันเกิดกลไกใหม่ขึ้นมาให้อนาคตที่มีการปรับเปลี่ยน ต้องยอมรับว่าหลายรัฐบาลพยายามทำก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องลองดู หากทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องรีบบอก เพราะเป้าหมายต้องการทำให้ดีขึ้น หากทำแล้วไม่ดีขึ้น ก็ไม่ควรเดินต่อ เมื่อถามว่าการเอาหน่วยงานราชการมาเป็นกรรมการในสภาวิชาชีพ ซึ่งสื่อไม่สามารถตรวจสอบได้จะสมดุลกันหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญในระบบราชการก็ทำงานกับสื่ออยู่แล้ว หน่วยงานราชการอาจเป็นแค่กลไกพื้นฐาน ความสำคัญอยู่ที่ผู้เชี่ยวชาญในคณะกรรมการเหล่านี้เป็นผู้ที่สื่อยอมรับ