อธิบดีอัยการต่างประเทศฟอร์มทีมเตรียมตั้งคณะทำงานรอรับเรื่องส่งทายาทกระทิงแดง ผู้ร้ายข้ามแดนจากอังกฤษ เป็นความผิดอาญาตรงกันทั้ง 2 รัฐ แง้ม ยังไม่ลืมทักษิณ กับ เณรคำ วันที่ 28 เมษายน 60 นาย อำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เผยถึงขั้นตอนหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนาย วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทผู้ก่อตั้งเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาหลบหนีคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ ว่า เมื่อมีหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ตำรวจก็ต้องตามจับผู้ต้องหา หากผู้ต้องหาอยู่ในราชอาณาจักรก็สามารถดำเนินการตามจับได้เลย แต่หากกรณีมีข้อมูลหรือหลักฐานว่าตัวผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยทางตำรวจจะต้องสอบสวนว่าผู้ต้องหาพำนักอยู่ที่ใด ซึ่งต้องมีหลักฐานเป็นเอกสารทางราชการว่าตัวผู้ต้องหาออกจากด่านสุวรรณภูมิวันใด อย่างที่เคยปรากฏตามสื่อว่าผู้ต้องหาเดินทางไปสิงคโปร์ ก็ต้องไปดูว่าเป็นวันใด และออกจากสิงคโปร์ไปยังประเทศอังกฤษเมื่อใด และปัจจุบันยังไม่มีหนังสือว่าออกจากประเทศอังกฤษ จึงน่าเชื่อว่าจะยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษหรือไม่ เป็นหนังสือมา และทางตำรวจก็จะนำหลักฐานคำสั่งฟ้องของอัยการที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องก็ถือว่าหลักฐานครบถ้วนแล้ว ก็สามารถส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกองการต่างประเทศก็จะมีการแปล สมบูรณ์แล้วก็จะส่งมายังตนเพื่อพิจารณา ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน และสนธิสัญญาไทยกับอังกฤษ ซึ่งเรื่องนี้เข้าเกณฑ์อยู่แล้ว เพราะเป็นความผิดอาญาที่ไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับการเมืองหรือการทหาร ซึ่งเมื่อหากหากครบเงื่อนไขแล้วในส่วนของตนคิดว่าภายในหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถออกหนังสือส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แล้วเราก็ทำเรื่องส่งไปที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยที่กระทรวงการต่างประเทศจะพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอังกฤษ ว่าจะต้องมีการขอไปอย่างไร และเรื่องนี้ก็จะส่งไปที่ Home Office ทางการของอังกฤษ เทียบกับบ้านเราคือกระทรวงมหาดไทย รับเรื่องไว้พิจารณาตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาและกฎหมายภายในของประเทศอังกฤษ ว่าเป็นความผิดของทั้ง 2 รัฐหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันว่าเป็นความผิดทั้งของทั้ง 2 รัฐ เนื่องจากเคยมีการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันมาเมื่อปี 2555 ส่วนทางอังกฤษจะใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน เราไม่สามารถตอบได้ แต่หากเขาต้องการหลักฐานเพิ่มเติม เราก็จะส่งให้ เราจะสนับสนุนหลักฐานที่ทางการอังกฤษอยากได้ทุกอย่าง และถ้าเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ ทางการอังกฤษก็จะยื่นคำร้องขอให้ศาลอังกฤษออกหมายจับ และหากผู้ต้องหายังอาศัยอยู่ก็จะต้องถูกจับกุมตัวไป และขึ้นศาลพิจารณาคดีเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่าตัวผู้ต้องหาจะยอมกลับหรือไม่ และถ้าไม่ยอมกลับมีเหตุเพราะอะไร เมื่อถามว่าที่เคยประสานงานกับตำรวจในการทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนมา ภายหลังจากที่ศาลออกหมายจับแล้ว ระยะเวลาที่ตำรวจทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนใช้เวลานานหรือไม่ นายอำนาจ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับทางตำรวจ จึงไม่ขอก้าวล่วง เพียงได้แต่บอกขั้นตอนว่าทำอย่างไรบ้าง แต่ตนคิดว่าคดีนี้เป็นคดีนโยบายที่ประชาชนสนใจ หากเรื่องช้าตำรวจเองก็ควรจะต้องมีคำตอบว่าช้าเพราะอะไร ก็คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเร็ว ซึ่งเราก็รออยู่ เมื่อถามต่อว่า ที่ผ่านมาเราเคยขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษและมีการส่งตัวสำเร็จหรือไม่ นายอำนาจ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างเรากับอังกฤษมีที่ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ต้องบอกว่าแต่ละคดีมีข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน จะเอาตรงนั้นมาเป็นเกณฑ์ไม่ได้ ตามสถิติที่ผ่านมา อังกฤษขอผู้ร้ายข้ามแดนจากเรานับสิบคน ส่วนเรามีการขอไป 5-6 ราย ซึ่งบางเรื่องก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ ต้องใช้เวลา เมื่อถามต่อว่า คดีนี้มีการตั้งคณะทำงานไว้กี่คน และเป็นระดับใดบ้าง นายอำนาจ กล่าวว่า ตอนนี้ตนคิดไว้ในใจแล้วว่าจะตั้งอัยการใดขึ้นมาเป็นคณะทำงานบ้าง โดยคณะทำงานเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในคดีนี้จะมีประมาณ 4-5 คน ซึ่งจะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ทำงานเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอังกฤษมาก่อน โดยจะมีระดับรองอธิบดีเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งเรามั่นใจว่าถ้ามีหลักฐานจากทางตำรวจครบ เราสามารถทำได้เลย เพราะเป็นนโยบายของเราอยู่แล้ว “ก็จะมีการตามเรื่อง ต้องการหลักฐานอะไรเราก็ส่ง เพราะอยู่ดีๆ เขาก็จะแจ้งมาเลยว่าพิจารณาแล้ว เราจะไม่ทราบล่วงหน้า พอเขาแจ้งเราเขาก็ออกหมายจับเลย บางทีเขาไม่ได้บอกล่วงหน้าเพราะกลัวผู้ต้องหาจะหนี คือช่วงระหว่างพิจารณาว่าจะได้ไม่ได้ ไม่มีใครทราบ เพราะอยู่ๆ เขาอาจจะพิจารณาและเห็นว่าคำขอคุณใช้ได้ก็ออกหมายจับ จะเป็นความลับ เพราะเดี๋ยวมีปัญหาในช่วงเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามกระบวนการได้” เมื่อถามถึงจำเลยและผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคดีรายอื่น เช่น นาย ทักษิณ ชินวัตร จำเลยคดีทุจริตฯ และนาย วิรพล สุขผล หรือเณรคำ ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ นายอำนาจ กล่าวว่า กรณีของเณรคำมีการออกหมายจับและเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ขณะนี้เณรคำกำลังสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนนายทักษิณนั้นเราก็มีคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนทุกประเทศตามที่มีการแจ้งมา เมื่อถามถึงกรณีของนายทักษิณมีการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปกี่ประเทศ และมีประเทศใดบ้าง นายอำนาจ กล่าวว่า มีหลายประเทศที่เราส่งไป ตอนนั้นที่มีข่าวว่าไปยังประเทศใดบ้างเราก็ส่งไปทุกประเทศ แต่บางเรื่องก็ยังไม่มีการตอบรับผลมา บางเรื่องก็มีการปฏิเสธมา โดยอ้างเหตุลักษณะเป็นการเมือง แต่ยังขออนุญาตไม่ตอบว่าเป็นประเทศไหน อะไรบ้าง แต่เราก็ยังยืนยันว่ายังมีการติดตามตัวอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายจับ นาย วรยุทธ ผู้ต้องหา ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกไว้ เลขที่ 138/2560 ลงวันที่ 28 เมษายน ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและข้อหา หลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ นั้นมีอายุความ ติดตามจับกุมนาย วรยุทธ ให้ได้ภายใน อายุความที่จะสิ้นสุดในวันที่ 3 กันยายน2570