อธิบดีอัยการต่างประเทศ มาเองตั้งทีมล่า “บอส วรยุทธ” แม้มีเจ็ตติดปีก ใช่ว่า จะเปลี่ยนที่อยู่ง่าย ๆ วันที่ 29 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้เลขที่ 138/2560 ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันทีว่า ขณะนี้ได้ตนตั้งคณะทำงานอัยการเพื่อติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนคณะทำงานที่มาร่วมนั้นต่างมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากเป็นเรื่องภายใน สำหรับการขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทางประเทศอังกฤษจะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นว่า เป็นคดีทางแพ่งหรือคดีการเมือง หรือเป็นคดีที่มีความผิดหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องการเดินทางหลบหนีการติดตามตัวของตัวผู้ต้องหา ที่หลายฝ่ายกังวลว่า ผู้ต้องหาจะเดินทาง โยกย้ายเปลี่ยนที่อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ผู้ต้องหาจะมีเครื่องบินส่วนตัว แต่การเดินทางเข้าออกประเทศต่าง ๆ จะต้อง ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ในกรณีที่ทางการไทยขอตัวไป เมื่อทางประเทศอังกฤษรับเรื่องแล้วแต่ในระหว่างพิจารณา ผู้ต้องหาหลบหนีไปที่อื่น เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( สตช.)จะต้องตามหาหลักแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหาว่า หลบไปที่ไหน ซึ่งคำขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ยื่นต่ออังกฤษจะยังคงอยู่ และหากกรณีที่อังกฤษไม่ได้ส่งคำร้องคืนกลับมา การขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ยังคงเดินหน้าต่อ เมื่อผู้ต้องหาเดินทางกลับประเทศอังกฤษ อัยการจะดำเนินการยื่นหนังสือใหม่เพียงแค่เปลี่ยนวันที่เท่านั้น เพราะรายละเอียดและเนื้อหาเป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน สำหรับเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ นายอำนาจนั้น ผู้ที่รับผิดชอบคือกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเมื่อรับทราบข้อเท็จจริงว่ามีการหลบหนีออกต่างประเทศ คงจะต้องมีการพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขการเพิกถอนหรือไม่ แต่ทางอัยการสำนักงานต่างประเทศคงไม่ก้าวล่วงที่จะไปแนะนำเพราะ เป็นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศจะต้องพิจารณาโดยตรง โดย สตช.จะต้องไปแจ้งให้กระทรวงต่างประเทศทราบ แต่การเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นการกดดันตัวผู้ต้องหาให้มอบตัวได้ทางหนึ่ง ซึ่งกรณีที่นายวรยุทธตัดสินใจยอมมอบตัวกลับมาเข้าสู่กระบวนการในประเทศไทยย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว โดยเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วส่งตัวมาให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาล อาญากรุงเทพใต้ ส่วนอัยการจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่เป็นเรื่องที่อัยการเจ้าของสำนวนจะพิจารณา " ในส่วนการทำหน้าที่ของอัยการสำนักงานต่างประเทศยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องรอพยานหลักฐานจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วนทั้งหมดเพื่อประกอบการยื่นคำร้องขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษ ต่อไป" นายอำนาจกล่าวตอนท้าย