รอง ผบ.ตร.ทำแผนปล้นธนาคารธนชาตบางใหญ่พบประวัติโชกโชน วันนี้ (1 พ.ค.60) ที่สภ.บางใหญ่/ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ. 1 และพล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รองผบช.ภ. ภาค 1 พล.ต.ต.ตรีสุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ. อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผบก.ภ.จว.สตูล ช่วยราชการ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตารวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาสน์ ผกก.สภ. บางใหญ่ แถลงข่าวจับกุมตัวนาย สมเกียรติ หรือ บี อุดมปิติสุขกุล อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จังหวัดนนทบุรีที่ 197/2560 ลงวันที่ 27 เมษายน 2560 นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเยาวชนและ ครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ที่ 8/2560 ลงวันที่ 26 เมษายน 2560นาย วันชัย หรือ ชัย ขุนศรี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัด นนทบุรี ที่ 187/2560 ลงวันที่ 24 เมษายน 2560โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีหรือใช้อาวุธหรือวัตถุระเบิด และโดยใช้ ยานพาหนะในการกระทาผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” พร้อมของกลางระเบิดปลอมใช้สายไฟผูกติดกับโทรศัพท์ จานวน 1 ชุด รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แลนเซอร์ สีเทาดำ ทะเบียน กต-9172 ปทุมธานี อาวุธปืนปลอม แบบลูกโม่ สีขาว จานวน 1 กระบอก เงินสด จานวน 2,880 บาท สร้อยคอทองคำ นำ้หนัก 1 สลึง จานวน 1 เส้นและโทรศัพท์ มือถือ จำนวน 1 เครื่อง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า พฤติการณ์ กล่าวคือเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 เวลา 14.00 น. ได้มีคนร้ายจานวน 3 คนก่อเหตุปล้นทรัพย์ ธนาคาร ธนชาต สาขาบางใหญ่ หมู่ 6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยใช้ ระเบิดปลอมขู่บังคับพนักงานธนาคาร ได้เงินจำนวน 301,660 บาท แล้วขึ้นรถยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ประกอบด้วย โดยมี 1.นาย สมเกียรติ หรือ บี อุดมปิติสุขกุล อายุ 37 ปี เป็นผู้วางแผนปล้น และเป็น ผู้นำระเบิดปลอมไปข่มขู่พนักงานเพื่อให้ส่งเงินให้ นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็นผู้ยืนคุมเชิงอยู่ ด้านหน้าประตู และ นาย วันชัย หรือ ชัย ขุนศรี อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับรถรับและส่งคนร้าย หลบหนี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุญาตศาลจังหวัดนนทบุรีและศาลเยาวชนและ ครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหา ตามลาดับที่ 1-3 ดังกล่าวข้างต้นและวันที่ 27 เมษายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสวนจนสามารถ จับกุมตัวนาย วันชัย ขุนศรี ผู้ต้องหาได้ตามหมายจับดังกล่าว พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แลนเซอร์ สีเทาดำ ทะเบียน กต-9172 ปทุมธานี จับกุมตัวได้ที่ ตาบลคูบางหลวง อาเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน2560เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสวนจนสามารถจับกุมตัว นาย สมเกียรติ หรือบี อุดมปิติสุขกุล และ นาย เอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังกล่าว พร้อมของกลางอาวุธปืนปลอม แบบลูกโม่ สีขาว 1 กระบอก, เงินสด 2,880 บาท, สร้อยคอทองคานาหนัก 1 สลึง 1 เส้น, โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อ ทรู สีดา 1 เครื่อง รวมของกลาง ทังหมด 4 รายการ โดยจับกุมตัวได้ที่พืนที่ ซอยสายไหม 50 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จากการสอบสวนผู้ต้องหาทัง 3 คนให้ การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหานำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่าจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่านาย สมเกียรติ อุดมปิติสุขกุล มีประวัติก่อเหตุมาแล้ว 2 ครัั้ง ในข้อหา ชิงทรัพย์ฯ และ ข้อหาลักทรัพย์ฯ โดยเคยถูกจำคุกอยู่เรือนจำจังหวัดปทุมธานี ได้รับการปล่อยตัวออกมา เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2559 2.นาย เอ (นามสมมุติ)มีประวัติถูกจับกุมข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดท้องที่ สน.ดอนเมือง เมื่อ ปี 2557 ส่วนนาย วันชัย ขุนศรี มีประวัติถูกจับกุมดาเนินคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ท้องที่ สภ.ปากคลองรังสิต เมื่อ ปี 2553 โดยถูกจาคุกอยู่เรือน จำจังหวัดปทุมธานี ได้รับการปล่อยตัวออกมา เมื่อปี 2558