สนช.จับมือ 3 หน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาค้าประเวณีเยาวชน "ครูหยุย" เผย เด็กสมัครใจค้ามนุษย์เยอะขึ้นแก้ปัญหายาก ชี้ โทษตามกม.ค้ามนุษย์ หากเป็นจนท.โดนหนัก 3 เท่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) แถลงภาพรวมการค้าประเวณีในสังคมไทยว่า ปัจจุบันมีอัตราน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบ 30 ปี ที่ผ่านมา เพราะถูกต่างชาติจับตาเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ แม้จะมีการลดระดับของไทยจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 แล้วก็ตาม แต่ปัญหานี้ก็ยังเกิดขึ้น ล่าสุดหลังจากเป็นข่าวกรณีการซื้อบริการเด็กในจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำหรับประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปัญหาการค้าประเวณีเด็กถือว่าหนักมาก มีเด็กถูกตกเขียวนับล้านคน จนมาเข้ายุคที่สอง คือยุคค้าประเวณีเด็กที่สมัครใจ ยุคที่สาม คือยุคการค้าประเวณีของเยาวชนชายที่สมัครใจ และ ยุคที่สี่ ยุคการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเยาวชนหญิง ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัญหาการค้าประเวณี แก้ไขยาก เพราะในระยะหลังเกิดจากความสมัครใจของเยาวชน ทั้งนี้ กรณีของการค้าประเวณีโดยการถูกบังคับที่ประเทศไทยสถานการณ์ถือว่า ดีขึ้นมาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การสมัครใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ยาก นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีคนจาก 3 ประเทศ คือ ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ถูกนำมาค้าประเวณี พบว่าเด็กจากกัมพูชา จะถูกนำมาเป็นขอทานมากที่สุด ส่วนเด็กเมียนมาร์จะถูกนำมาค้าประเวณีมากที่สุด และเด็กจากลาวจะมีอายุน้อยที่สุดที่นำมาค้าประเวณีคือ ลาว ซึ่งมีอายุแค่ 12 ปี อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะนี้มีคณะทำงานร่วมกัน 3 ส่วนประกอบด้วย 1. กระทรวงมหาดไทย โดยรองปลัดฯ ทำหน้าที่สืบสวนหาข้อเท็จจริง 2. เครือข่ายองค์กรปกป้องคุ้มครองเด็ก และ 3. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งกำลังเก็บข้อมูลเชิงลึกอยู่ในหลายจังหวัด และเป็นข้อมูลทางลับ ขณะที่เรื่องของบทลงโทษ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ.2551 ระบุว่า หากผู้ใดนำเด็กอายุ 15-18 ปี แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ จะต้องโทษจำคุก 4-10 ปี และปรับ ตั้งแต่ 80,000-200,000 บาท หากผู้กระทำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมีโทษเพิ่ม 3 เท่า มากกว่าปกติ