เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 1 พ.ค.60 พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.จักรวรรดิ พ.ต.ท.โชคชัย คณะเจริญ รอง ผกก.ป. สั่งการให้พ.ต.ท.วิชญ์พล ศรีศักดา สวป.สน.จักรวรรดิ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ร่วมกันจับกุมนายวิษณุ ประทุมทอง อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.172/2560 ลงวันที่ 21 เมษายน 2560 ในข้อหา ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานและทำให้เสียทรัพย์ โดยสามารถจับกุมได้ที่ ด้านหลังอาคาร555 เสือป่ามาร์เก็ต แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากชุด ฉก.ตรและ สตม. กว่า 10 คน เข้ามาขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายภายในโกดังทาวเฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 40 ซ.ตรอกชุ่ม แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. ซึ่งภายในโกดังเป็นที่เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมี น.ส.แววตา สอนสุภาพ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของโกดังดังกล่าว
น.ส.แววตา เผยว่า ในวันเกิดเหตุตนให้ลูกน้องไปเปิดโกดัง เพื่อเอาของไปขายที่ร้านค้าย่านสำเพ็ง ปรากฎว่ามีชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน โดยหนึ่งในนั้นเข้ามาแสดงตัวอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบลิขสิทธิ์ ก่อนจะจับกุมคนงานพร้อมรื้อค้นทรัพย์สินในโกดังนำมาวางไว้ด้านนอก ก่อนที่กลุ่มคนดังกล่าวจะยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 2 แสนบาท ในการดำเนินคดี ตนจึงขอตรวจบัตรและต้องการทราบข้อหา แต่กลุ่มคนดังกล่าวไม่มีเอกสารมาแสดงพร้อมทั้งไม่ระบุว่าตนกระทำผิดในข้อหาใด ก่อนที่ทางกลุ่มคนดังกล่าวจะพาตนมาที่ สน.จักรวรรดิ เพื่อตกลงค่าเสียหาย จนไกล่เกลี่ยเหลือ 2 หมื่นบาท จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้พาตนมายังจุดรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจบน สน.จักรวรรดิ และได้ใช้คอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องปริ้นเตอร์ที่ติดตัวมา เขียนเอกสารและให้เซ็นต์ในจุดดังกล่าว โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาร่วมลงบันทึกแต่อย่างใด
น.ส.แววตา เผยอีกว่า จากนั้นตนได้กลับมายังโกดังเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้ 4 ตัวรอบโกดัง พบว่ามี 2 ตัวที่ถูกถอดสายไฟออกไป แต่อีก 2 ตัวสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พบว่านอกจากมีการรื้อค้นแล้วยังมีการขโมยทรัพย์สินไปอีกด้วย ตนจึงเดินทางมาแจ้งความที่ สน.จักรวรรดิ อีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้เคยถูกกระทำเช่นนี้มาแล้วหลายราย แต่ไม่มีใครกล้าแจ้งความดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายวิษณุ ให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และในวันเกิดเหตุตนถูกเพื่อนไหว้วานให้มาช่วยขนของในเรื่องจับลิขสิทธิ์เท่านั้น โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนไม่ได้เป็นคนที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ภพธร เผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย คือ นายสมนึก น่วมในชาติ อายุ 30 ปี และนายสมชาย พออยู่ อายุ 30 ปี และควบคุมตัวนายวิษณุซึ่งปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิดได้ในเวลาต่อมา และจากการตรวจสอบกลุ่มคนดังกล่าวไม่พบว่ามีบุคคลใดเป็นเจ้าพนักงานจาก สตช.หรือ สตม.ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าจะเร่งสืบสวนจับกุมกลุ่มคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.แววตา เผยอีกว่า จากนั้นตนได้กลับมายังโกดังเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้ 4 ตัวรอบโกดัง พบว่ามี 2 ตัวที่ถูกถอดสายไฟออกไป แต่อีก 2 ตัวสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พบว่านอกจากมีการรื้อค้นแล้วยังมีการขโมยทรัพย์สินไปอีกด้วย ตนจึงเดินทางมาแจ้งความที่ สน.จักรวรรดิ อีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้เคยถูกกระทำเช่นนี้มาแล้วหลายราย แต่ไม่มีใครกล้าแจ้งความดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายวิษณุ ให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และในวันเกิดเหตุตนถูกเพื่อนไหว้วานให้มาช่วยขนของในเรื่องจับลิขสิทธิ์เท่านั้น โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนไม่ได้เป็นคนที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ภพธร เผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย คือ นายสมนึก น่วมในชาติ อายุ 30 ปี และนายสมชาย พออยู่ อายุ 30 ปี และควบคุมตัวนายวิษณุซึ่งปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิดได้ในเวลาต่อมา และจากการตรวจสอบกลุ่มคนดังกล่าวไม่พบว่ามีบุคคลใดเป็นเจ้าพนักงานจาก สตช.หรือ สตม.ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าจะเร่งสืบสวนจับกุมกลุ่มคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป