เมื่อเกิดสภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานด้วยโรคโควิด-19 จึงทำให้ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจนำเที่ยว ร้านอาหาร สปา จำเป็นต้องปิดตัวชั่วคราว เป็นต้น เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในครั้งนี้ ซึ่งภายหลังจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และปิดเมืองบางจังหวัด ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต ซึ่งในเรื่องนี้ นาย ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ดีวาน่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้สะท้อนผลกระทบ พร้อมแผนตั้งรับ และฟื้นฟูไว้อย่างน่าสนใจ ดูความชัดเจนจากภาครัฐ โดย นาย ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ดีวาน่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า ในช่วงนี้คงจะต้องรอดูสถานการณ์ในแต่ละวัน เพื่อนำมาดำเนินการวางแผนการทำงานต่อไป แต่ถ้าโควิด-19 ไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้น ก็จะเดินหน้าทำงานอย่างอื่นได้ยาก อย่างเช่นจังหวัดภูเก็ตเวลานี้ได้ปิดเมืองไปจนถึงปลายเดือนเมษายน ซึ่งต้องดูการทำงานของทางภาครัฐในการพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป ขณะที่การทำงานของธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตช่วงนี้ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบาย และให้ความร่วมมือกับภาครัฐเต็มที่ อย่างเช่น การร่วมมือจากภาคเอกชนประมาณ 9 องค์กร ร่วมกันจัดตั้งโรงพยาบาลสนามบริเวณศาลากลางเมืองภูเก็ตเสร็จภายใน 2-3 วันเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์ของ ดีวาน่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท นั้นได้รับผลกระทบมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ในกลุ่มธุรกิจสปา ก่อนจะมาปิดทั้งเดือนในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งคาดหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงในเดือนพฤษภาคม หรือประมาณ 1-3 เดือนนั้นเอง แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูความชัดเจนจากภาครัฐเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามด้วยสัดส่วนของลูกค้าในธุรกิจโรงแรมของภูเก็ตน่าจะเป็น 0% ช่วง 6 เดือนที่จะถึงนี้ เมื่อเทียบกับอัตราการเข้าพักในช่วงเดียวกันเมื่อปี 2562 จากการรวบรวมของสมาคมโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่ที่ 60-70% ในช่วงโลว์ซีซั่น และในเดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายนอยู่ที่ประมาณ 50% ยังดำเนินงานตามระบบ ซึ่ง นาย ศึกษิต กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนหลังจากโควิด-19ของปีนี้สัดส่วนของนักท่องเที่ยวน่าจะหายไปหมด และน่าจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3-4 หรือประมาณ เดือนตุลาคม-ธันวาคม เพราะโดยปกติช่วงนี้ อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 70% แต่ในปีนี้การฟื้นตัวอาจจะไม่ดีเหมือนกับปีก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงต้องเตรียมแผนตั้งรับ โดยตั้งเป้าไว้ประมาณ 50% หลังจากโควิด-19 คลี่คลายแล้ว ในส่วนของดีวาน่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ธุรกิจโรงแรมยังดำเนินงานตามระบบอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ทั้งระบบหน้าบ้านหลังบ้าน และโปรแกรมการทำงานต่างๆ พร้อมกับบริหารจัดการในเรื่องบุคลากรของโรงแรม เพื่อพยุงธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ ทั้งด้วยมาตรการทางภาครัฐที่เข้ามาช่วยพนักงานบางส่วนตามที่เหมาะสม ขณะที่ทางโรงแรมเองก็จะพิจารณาแต่ละระดับชั้นของผู้ปฏิบัติการ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน "การช่วยเหลือที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากมาตรการภาครัฐ แต่ละโรงแรมจะนำไปพิจารณา และมีมาตรการเยียวยาพนักงานไม่เหมือนกัน โดยแต่ละแห่งอาจจะได้รับการช่วยเหลือไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ สำหรับผู้ประกอบการบางรายไม่มีสภาพคล่องทางการเงินก็คงต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า " รอดูสัญญาณการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม นาย ศึกษิต กล่าวว่า ในส่วนของ ดีวาน่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรอดูสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งวิกฤติครั้งนี้น่าจะใช้เวลานานพอสมควรประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างมาก และในช่วง 6 เดือนอาจจะไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นทางดีวาน่า ป่าตอง รีสอร์ท ภูเก็ต และดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง ที่มีตลาดมิกซ์ หรือ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากหลายตลาด โดยมีตลาดจีนและ ตลาดอินเดียในสัดส่วนประมาณ 20-30% เพราะฉะนั้นจึงตั้งเป้าเดือนพฤศจิกายน เมื่อตลาดเอเชีย เปิดเส้นทางให้เดินทางข้ามภูมิภาคกันได้ ทั้งจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และพวกเอเชียใต้ อย่าง ตลาดอินเดีย หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่หลักๆ มีตลาดจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ น่าจะได้จากกลุ่มนี้ประมาณ 30-40% จากอัตราการเข้าพักปกติในช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 80% อีกทั้งด้วยประเทศในแถบยุโรป และสแกนดิเนเวีย น่าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวที่จะสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้ ดังนั้นผู้ประกอบการ จึงอาจจะต้องใช้จุดนี้วางแผนการทำงานใหม่ เพื่อพยุงธุรกิจให้ผ่านพ้นไปให้ได้ จากเดิมที่เคยมุ่งทำตลาดยุโรปเพียงอย่างเดียวคงต้องหาตลาดเอเชียมาเสริมในปีแรกๆ หรือหันมาทำตลาดแบบไม่เจาะจงนักท่องเที่ยวไปทางใดทางหนึ่งมากขึ้น เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ มีการคาดการณ์ไว้ว่า กลุ่มตลาดยุโรป และสแกนดิเนเวียจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งคงใช้เวลาประมาณหนึ่งปี หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2564