วันที่ 8 พ.ค. 60 เวลา 10.30 น. ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงยุติธรรม พิจารณาขอพักโทษ และพระราชทานอภัยโทษ กรณีนายอุดม และนางแดง ศิริสอน เข้าไปเก็บเห็ดในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บ้านหนองกุงไทย หมู่ 6 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษา คดีถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 2 พ.ค.60 ให้จำคุกคนละ 5 ปี โดยมีนายอินทราวุธิ สมมาตร หัวหน้าศูนย์บริการร่วม เป็นผู้รับเรื่อง นายสงกานต์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก สองสามีภรรยา จำคุก 30 ปี แต่นายอุดมและนางแดงรับสารภาพ ศาลจึงพิจารณาลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ก่อนที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้จำคุก คนละ 5 ปี โดยคดีนี้ นายอุดมถูกต้องขังมาแล้ว 595 วัน ส่วนนางแดงถูกต้องขังมาแล้ว 622 วัน โดยให้นำวันที่ต้องขังมาแล้วนั้นหักจากโทษจำคุก 5 ปี ด้วยตามขั้นตอนกฏหมาย โดยขอให้กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ทั้งนี้ นายอุดมและนางแดง ถือเป็นนักโทษชั้นกลาง เพราะคดีเพิ่งสิ้นสุด จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอพักโทษ เนื่องจากต้องเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม จึงจะขอพักโทษได้ "นายอุดมและนางแดง จะต้องได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดีเสียก่อน ซึ่งการพิจารณาเลื่อนชั้นนักโทษของกรมราชทัณฑ์จะมีการพิจารณาปีละ 2 ครั้ง คือปลายเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. โดยหลังสิ้นสุดคดี นักโทษต้องถูกคุมขังอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ให้พิจารณาขอพักโทษ ซึ่งการพิจารณาเลื่อนชั้นของนายอุดมและนายแดงจะมีขึ้นได้เร็วที่สุดก็คือเดือน ธ.ค.นี้ หากได้รับการเลื่อนชั้น จากนั้นก็ต้องมาพิจารณาเรื่องข้อกำหนดของการขอพักโทษต่อไป โดยการขอพักโทษนักโทษไม่ต้องทำเรื่องขอ เพราะเป็นขั้นตอนปกติของกรมราชทัณฑ์ในการพิจารณาความประพฤติของนักโทษแต่ละคนอยู่แล้ว" นายสงกานต์ กล่าว ด้าน นายอินทราวุธ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องดังกล่าวและจะส่งไปให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาตามหลักเกณฑ์ต่อไป