จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปวิดีโออธิบายเหตุการณ์ของพนักงานเร่งรัดหนี้สินกำลังเข้าตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ หมายเลขทะเบียน ฌอ 2979 กรุงเทพมหานคร กระทั่งมีชายไม่ทราบชื่อไม่สวมเสื้อใส่ นุ่งกางเกงขายาวสีครีมไม่สวมรองเท้า เดินถือปืนออกจากบ้านหลังหนึ่งแล้วขึ้นไปที่นั่งคนขับก่อนขับรถคันดังกล่าวออกไป จากการตรวจสอบพบว่าชายที่ปรากฏในคลิป คือ ด.ต.เอกฉัตร สมสิริ ผบ.หมู่สืบสวน สน.บางเขน จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุ ด.ต.เอกฉัตรได้ออกเวรจากการปฏิบัติหน้าที่และได้นอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก ต่อมา น.ส.นพวรรณ จีระ อายุ 34 ปี ภรรยาได้มาเรียกว่ามีคนมาล้อมจะปล้นรถไป ขณะที่ ด.ต.เอกฉัตรหลับอยู่จึงตกใจ ไม่รู้ว่าบุคคลที่เอารถมาเป็นใครจึงนำปืนพกติดตัวไปด้วย โดยขณะที่ออกมาไม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นใคร ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์จริงหรือไม่เนื่องจากไม่มีการแจ้งเอกสารแสดงตน ด้วยความกลัวจึงได้ตัดสินใจนำปืนออกมาด้วย ซึ่งการจ่ายค่าผ่อนรถนั้นตนไม่ทราบว่าค่าดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ภรรยาเลือกมันจะสูงถึงขนาดนี้ อีกทั้งให้เงินภรรยาไปจ่ายทุกเดือน เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นางพัชรินทร์ จันทร์ศิริ และนางดาวรุ่ง สายทองคำ อายุ 46 ปี พนักงานเร่งรัดหนี้สิน บริษัทกรุงไทยออโต้ลิสจำกัด ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ศูนย์บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝ่ายกฎหมาย กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากไปแจ้งความที่ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากับคู่กรณีเพียง ข้อหาข่มขู่เท่านั้น ทั้งที่พฤติกรรมน่าจะเข้าข่ายพกปืนในที่สาธารณะ และพยายามฆ่าได้ แม้จะเป็นตำรวจสืบสวน สน.บางเขนก็ตาม แต่ขณะนั้นไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่จึงเป็นการเป็นการพกปืนโดยไม่มีเหตุจำเป็น ทั้งที่ตนทำตามขั้นตอนในการยึดรถ มีการติดต่อพูดคุย และแนะนำตัวอย่างชัดเจน แต่อีกฝั่งกลับพูดจาด้วยคำหยาบคาย และพยายามให้ข่าวว่าพวกตนเป็นคนผิด นางพัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็มีพนักงานไฟแนนซ์คนอื่นเข้ามาทวงถามกับคู่กรณี แต่ก็ถูกข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ให้เขียนคำร้องที่ฝ่ายกฎหมาย หลังจากนี้จะตรวจสอบข้อมูลภายใน15วัน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป