เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 9 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก 2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายบวร กระแสนิธิ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/28 ม.12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 1183/2547 ลงวันที่ 20 ต.ค.47 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณกลางซอย 5 ถ.ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.สมุทรปราการ สืบเนื่องจาก นายบวร ผู้ต้องหารายนี้นั้นเคยเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครช่วยเหลือตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กระทั่งเมื่อช่วงเดือน ต.ค. 47 ระหว่างที่นายบวรพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเฝ้าระวังเหตุในพื้นที่ ได้มีกลุ่มเด็กแว้นรวมกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์ซิ่งผ่านมาบริเวณจุดตรวจดังกล่าว นายบวรจึงได้มีการเรียกให้กลุ่มเด็กแว้นดังกล่าวหยุดรถแต่กลุ่มเด้กแว้นกลับไม่ยอมหยุดรถพร้อมทั้งพยายามเร่งเครื่องบิดหนี นายบวรจึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนขนาด .22 ยิงใส่เข้าไปที่กลุ่มเด็กแว้น จำนวน 2 นัด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้หลังเกิดเหตุนายบวร ได้หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ตามบ้านญาติพี่น้องและเพื่อนสนิท ในพื้นที่ต่างๆ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการสอบสวน นายบวรให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจริง แต่ตั้งใจจะยิงขู่เพื่อให้หยุดรถเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาหมายเอาชีวิตแต่อย่างใด ส่วนการที่เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจนั้น เนื่องจากเมื่อปี 45 ที่ กองบังคับการปราบปราม ได้เปิดอบรมอาสาสมัครกองปราบ หรือ กองปราบอาสา ขึ้นเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ ทั้งนี้ภายหลังจากฝึกอบรมเสร็จตนก็ได้ย้ายไปเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.บางพลี เนื่องจากตนมีภูมิลำเนาอยู่ที่นั่น กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุตนก็ได้พยายามหลบหนีไปกบดานซ่อนตัวตามพื้นที่ต่างๆ กระทั่งเห็นเรื่องเงียบหายไปจึงได้ไปสมัครงานเป็น รปภ.โรงงานแห่งหนึ่ง กระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป