‘อนันตรา’ยกระดับมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยเตรียมพร้อมต้อนรับผู้เข้าพักหลังโควิด-19

กลุ่มโรงแรมอนันตรา ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมในเครือ 41 แห่ง ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง มหาสมุทรอินเดีย แอฟริกา และยุโรป ได้ประกาศแผนการมาตรการด้านสุขภาพและสุขอนามัย ที่จะนำมาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของผู้ใช้บริการโรงแรมอนันตราทุกแห่ง โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งรวมผู้บริหารระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อกำกับดูแลการพัฒนาและการเปิดตัวของมาตรการใหม่ในชื่อ พักอย่างสบายใจ (Stay with Peace of Mind) ต่อยอดจากระบบการปฏิบัติงานด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่มีอยู่เดิม พร้อมเพิ่มมาตรการสูงสูงในด้านสุขอนามัย ทั้งนี้โรงแรมอนันตราทุกแห่งจะมี ผู้พิทักษ์แขก (Guest Guardian) ที่รับผิดชอบในการตรวจสอบภายในตามมาตรฐานอันเข้มงวดของแบรนด์ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลายหน่วยงาน รวมถึง อีโคแล็บ (Ecolab) และ ไดเวอร์ซี่ (Diversey) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการทำความสะอาดและสุขอนามัย โดยโรงแรมทั้งหมดในเครืออนันตรา จะปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ตามแนวทางของรัฐบาลของแต่ละประเทศ และองค์การอนามัยโลก สำหรับ โรงแรมทุกแห่งในเครืออนันตรา จะดำเนินการยกระดับมาตรการด้านสุขอนามัย และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 และแบคทีเรียอื่น ๆ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency - EPA) ในการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะทั้งหมด ทั้ง ล็อบบี้ แผนกต้อนรับ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และห้องพัก ซึ่งการยกระดับมาตรการด้านสุขอนามัย ยังรวมถึง การใช้เทคโนโลยีพ่นสเปรย์แบบไฟฟ้าสถิต (electrostatic spray technology) เพื่อให้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อที่ฉีดพ่นครอบคลุมพื้นผิวต่างๆ อย่างทั่วถึง การให้บริการเจลแอลกฮอล์ล้างมือสำหรับการฆ่าเชื้อ รวมถึงมาตรการพิเศษอื่น ๆ เช่น การทำความสะอาดคีย์การ์ด เพื่อสุขภาพที่ดี ความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพัก ทั้งนี้ ด้วยแนวทางแบบองค์รวม 360 องศาของอนันตรา การดูแลสุขภาพอนามัยยังจะครอบคลุมไปถึงการปฏิบัติงานด้านหลังบ้านทั้งหมด ตั้งแต่ การจัดส่งวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ไปจนถึง และขั้นตอนการทำงานแผนกแม่บ้าน ซึ่งแขกที่จองบริการรถลีมูซีนรับส่งสนามบิน ตัวแทนของอนันตราที่สนามบินจะเป็นผู้พาแขกไปยังรถลีมูซีนส่วนตัว ที่ได้รับการล้างทำความสะอาดหลังการเดินทางทุกครั้ง เพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโควิด-19 พร้อมกับจัดเก็บกระเป๋าเดินทางของแขกในส่วนเก็บสัมภาระท้ายรถ ในขณะที่คนขับรถจะสวมหน้ากากอนามัย และจะไม่สัมผัสกระเป๋าเดินทางเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หากข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเช็คอินของแขกผู้เข้าพักยังไม่สมบูรณ์ ข้อมูลจะถูกรวบรวมในระหว่างการเดินทาง เพื่อแขกสามารถเช็คอินได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น และใช้เวลาที่ล็อบบี้ของโรงแรมน้อยที่สุด ส่วนคลาสออกกำลังกายและคลาสเพื่อสุขภาพต่างๆ จะได้รับการปรับเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีของแขกผู้ใช้บริการ อาทิ คลาสออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนตัว โยคะ และพิลาทิส ทั้งในแบบส่วนตัว เป็นคู่ หรือกลุ่มเล็กๆ ด้วยระยะห่างที่เหมาะสม ด้านห้องอาหารทุกห้องจะให้บริการด้วยมาตรฐานด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยสูงสุด โดยอาหารเช้าจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบตามสั่ง พร้อมจัดโต๊ะให้มีระยะห่างที่เหมาะสม และเสิร์ฟอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกจานที่โต๊ะ และยังมีตัวเลือกเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพที่ช่วยเสริมภูมิคุ้นกัน รังสรรค์โดยเชฟผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย ขณะที่บางคนอยากช้อปปิ้งอย่างเป็นส่วนตัว ทางโรงแรมยังร่วมกับร้านค้าที่ร่วมกิจกรรมในพื้นที่จัดบริการจัดช้อปปิ้งแบบส่วนตัว (personal shopping time) ให้จองล่วงหน้า พร้อมตัวเลือกบริการรถลีมูซีนรับส่ง เพื่อสามารถเพลิดเพลินกับการจับจ่ายในร้านที่ไม่แออัด นอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้ว คุณภาพอากาศที่สะอาดเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ อนันตรา ได้สร้างเทรนด์ใหม่ให้กับวงการโรงแรม โดยได้จับมือกับ สยาม โอเชียน เทคโนโลยี ในการนำระบบปรับสภาวะอากาศ การทำความร้อน (Heating) การระบายอากาศ (Ventilation) และการปรับอากาศ (Air Conditioning) หรือรู้จักกันในนามเทคโนโลยี HAVC มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองอากาศ โดย สยาม โอเชียน เทคโนโลยี ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และการควบคุมอุปกรณ์ทุกอย่างผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Internet of Things – IoT) มาใช้ในการควบคุมสิ่งแวดล้อม ผ่านระบบการกรองอากาศและการควบคุมอุณหภูมิที่ ปราศจากเสียงรบกวนและทำให้คุณภาพอากาศสะอาดบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มนำระบบ HAVC เข้ามาใช้ใน อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท ก่อนจะขยายสู่โรงแรมอนันตราแห่งอื่นๆ ในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแขกผู้เข้ามาใช้บริการจะได้มีอากาศบริสุทธิ์ ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย