จากกรณีหญิงสาวเคราะห์ร้ายน.ส.สุนันทา ภิรมย์ อายุ 38 ปี ชาว ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ถูกอดีตสามี นายณรงค์ อินทอง อายุ 40 ปี ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.สุราษฎร์ธานี ใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บและจับยัดใส่ท้ายรถเก๋งมาสด้า 2 ซีดาน สีขาว ทะเบียน กท 6924 นครศรีธรรมราช ที่จอดบริเวณถนน ซอยหน้าด่าน หลังวัดใหม่พัฒนาราม เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ก่อนที่จะมีพลเมืองดีได้ยินเสียงและช่วยกันงัดนำออกมาจากท้าย โดยปมเหตุมาจากฝ่ายชายมาตามง้อฝ่ายหญิงขอคืนดี แต่ทางฝ่ายหญิงไม่ยอมจึงได้มีปากเสียงกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุฝ่ายชายได้หลบหนีการจับกุม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. มอบหมายสั่งการให้พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5บก.ป. พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.ชป.2กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่กก.5บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายณรงค์หรือโทน อินทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลชที่ 227 ม. 6 ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 116 /2560 ลงวันที่ 7 พ.ค. 2560 ในฐานความผิดพยายามฆ่าผู้อื่น โดยจับกุมได้ภายในเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น, เขตลาดกระบัง พ.ต.อ.ภูมินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงน.ส.สุนันทา ภิรมย์ อายุ 38 ปี ชาว ต.สวนขัน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ที่ด้านหลัง 2 แผลและท้ายทอย 1 แผล ก่อนนำมายัดใส่ท้ายรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท 6924 นครศรีธรรมราช ที่จอดบริเวณถนน ซอยหน้าด่าน หลังวัดใหม่พัฒนาราม เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จากนั้นจึงได้หลบหนีความผิด ต่อมาผู้บาดเจ็บได้ร้องขอความช่วยเหลือมีพลเมืองดีมาช่วยไว้ก่อนนำส่งรพ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งต่อมาชุดสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายณรงค์ ซึ่งเป็นอดีตสามีเก่าของหญิงเคราะห์ร้าย โดยในวันเกิดเหตุได้มาขอคืนดี แต่หญิงดังกล่าวไม่ยอมจึงมีปากเสียงและลงไม้ลงมือกัน โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีความผิดขึ้นรถมาที่สายใต้ใหม่ จากนั้นมีคนอื่นมารับ กระทั่งสืบทราบว่ามากบดานอยู่ที่เคหะร่มเกล้าจึงนำกำลังจับกุม ด้านนายณรงค์ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้อยู่กินกับน.ส.สุนันทามา 20 ปี จนมีพยานรักกัน 3 คน ซึ่งช่วงหลังได้ห่างกัน เนื่องจากทำงานจนทำงานที่นครศรีธรรมราช ส่วนภรรยาทำงานที่สุราษฏร์ เดือนหนึ่งจะมาหาครั้งหนึ่ง กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมารับนางสาวสุนันทามาที่โรงแรมเพื่ออยู่ด้วยกัน 3 วัน ระหว่างที่อยู่ด้วยกันภรรยาได้บอกว่ารับได้หรือไม่เพราะว่าปันใจไปให้ชายอื่น จึงได้เคลียร์กัน แต่ไม่เป็นผล จึงมีปากเสียงกันรุนแรง จึงบันดาลโทสะใช้มีดที่เตรียมไว้กระหน่ำแทง 2 แผล และท้ายทอย 1 แผล ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นยังอุ้มนางสาวสุนันทาไปขังไว้ที่ท้ายกระโปรงรถเพราะกลัวความผิด ไม่ได้หวังจะให้เสียชีวิต และนำทรัพย์สินของภรรยา อาทิ แหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และเงินสด3หมื่นบาท หลบหนีมาหาพี่สาวที่กรุงเทพมหานคร ก่อนจะไปเช่าห้องที่เคหะร่มเกล้า กระทั่งถูกจับกุม อย่างไรก็ตามขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปที่ผ่านมาตนดูแลลูกทั้ง3 คนมาเพียงลำพังตลอด และก่อนหน้านี้ภรรยาก็เคยนอกใจมาแล้ว อีกทั้งพ่อของฝ่ายหญิงก็ไม่ชอบตน อยากให้เลิกกัน ทั้งนี้ในส่วนของลูกทั้งสามคนของตน ไม่ได้พามาด้วยกัน โดยคนโตอยู่ที่กรุงเทพ ส่วนอีกสองคนอยู่ที่ต่างจังหวัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น สอบปากคำก่อนจะคุมตัวนายณรงค์ไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในส่วนของทรัพย์สินอยู่ระหว่างการติดตามเพื่อนำมาคืนให้น.ส.สุนันทาต่อไป